ศึกษาเทคนิคการพ่นสารเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูส้มเขียวหวาน

[doa]

ศึกษาเทคนิคการพ่นสารเพื่อป้องกันกำจัดแมลงศัตรูส้มเขียวหวาน
พฤทธิชาติ ปุญวัฒโท, ดำรง เวชกิจ, จีรนุช เอกอำนวย, สิริกัญญา ขุนวิเศษ, สรรชัย เพชรธรรมรส และสิริวิภา พลตรี
กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช

          ทำการศึกษาเทคนิคการพ่นสารป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟพริกในส้มเขียวหวาน (Scirtothrips dorsalis) ณ แปลงส้มเขียวหวานของเกษตรกร อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 3 การทดลอง ดังนี้ การทดลองที่ 1 ทำการทดลองทางด้านกายภาพ ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2551 การทดลองที่ 2 ทำการทดลองด้านประสิทธิภาพ ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2552 และการทดลองที่ 3 ทำการทดลองหาอัตราสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสม ระหว่างเดือนกรกฎาคม - กันยายน 2553 จากผลการทดลองพบว่า การพ่นสารแบบน้ำน้อยด้วยเครื่องพ่นสารแบบใช้แรงลมขนาดใหญ่ (Airblast sprayer) แบบใช้ที่บังคับลมและ tower ที่พัฒนาโดยกลุ่มงานวิจัยการใช้สารฯ และเครื่องที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาที่บังคับลมที่อัตราพ่น 3 ลิตรต่อต้น เท่ากันทุกกรรมวิธีให้ค่าเฉลี่ยความหนาแน่นของละอองสารเพียงพอต่อการป้องกันกำจัดแมลงเช่นเดียวกับกรรมวิธีการพ่นโดยใช้เครื่องยนต์พ่นสารแบบแรงดันน้ำสูงชนิดลากสาย (High pressure pump sprayer) ประกอบหัวฉีดกรวยกลวงแบบ Adjustable cone แบบเกษตรกรที่อัตราพ่น 8.5 ลิตรต่อต้น โดยการพ่นแบบใช้ที่บังคับลมและ tower ที่พัฒนาโดยกลุ่มงานวิจัยการใช้สารฯ ให้ค่าเฉลี่ยความหนาแน่นของละอองสารสูงสุด และเมื่อนำมาทดสอบประสิทธิภาพเปรียบเทียบกันด้วยสาร imidacloprid (Confidor 10% SL) อัตราแนะนำที่ 8 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร (0.3 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อต้น) ประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่การพ่นด้วยเครื่อง Airblast สามารถประหยัดน้ำ เวลา และแรงงานได้มากกว่า โดยประหยัดน้ำกว่า 4 เท่า ประหยัดเวลากว่า 9 เท่าและประหยัดแรงงานกว่า 3 เท่า ตามลำดับ นอกจากนี้จากการทดลองหาอัตราสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสม โดยการพ่นสาร imidacloprid (Provado 70% WP) ด้วยเครื่อง Airblast อัตราแนะนำที่ 2 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร (0.8 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อต้น) เปรียบเทียบกับอัตราสารออกฤทธิ์ 0.4 และ 0.6 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อต้น พบว่าทุกอัตราสารออกฤทธิ์มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ จึงสามารถลดอัตราการใช้สารและอัตราสารออกฤทธิ์ลงจากเดิมกว่า 50%