01-05-2016, 03:14 PM
ประสิทธิภาพของสาร abamectin ในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปมในมันฝรั่ง
ไตรเดช ข่ายทอง, ธิติยา สารพัฒน์, มนตรี เอี่ยมวิมังสา และเสงี่ยม แจ่มจำรูญ
กลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก
ไตรเดช ข่ายทอง, ธิติยา สารพัฒน์, มนตรี เอี่ยมวิมังสา และเสงี่ยม แจ่มจำรูญ
กลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก
การใช้สารอะบาเมคติน 1.8% EC ราดดิน หรือจุ่มหัวพันธุ์มันฝรั่งก่อนปลูก สามารถลดการเกิดปมที่รากของมันฝรั่งพันธุ์แอตแลนติก และการขยายพันธุ์ของไส้เดือนฝอยรากปมได้ในการทดลองในกระถางทดลอง แต่ไม่มีประสิทธิภาพดีพอในแปลงทดลอง การราดดินด้วยสารอะบาเมคตินความเข้มข้น 0, 50, 100, 250, และ 500 ไมโครลิตร/น้ำ 50 มิลลิลิตร ในกระถางบรรจุดินปริมาตร 1 ลิตร ที่มีไข่ไส้เดือนฝอยรากปม 0, 1,000, 5,000 และ 20,000 ฟองต่อกระถาง พบว่าประสิทธิภาพของสารอะบาเมคตินขึ้นอยู่กับจำนวนไส้เดือนฝอยในดิน โดยต้องใช้ในอัตราที่สูงขึ้นในดินที่มีจำนวนไส้เดือนฝอยมากขึ้นเพื่อควบคุมโรค ซึ่งต้องใช้สารอะบาเมคตินความเข้มข้น 250 ไมโครลิตรต่อกระถาง จึงสามารถลดการเกิดปมที่ราก และการขยายพันธุ์ของไส้เดือนฝอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในดินที่มีไข่ไส้เดือนฝอย 20,000 ฟอง การจุ่มหัวพันธุ์มันฝรั่งด้วยสารอะบาเมคตินความเข้มข้น 5, 10, 25, 50 และ 100 มิลลิลิตร/ลิตร ก่อนปลูกในกระถางบรรจุดินปริมาตร 1 ลิตร ที่มีไข่ไส้เดือนฝอยรากปม 5,000 ฟอง พบว่า ทุกความเข้มข้นสามารถลดการเกิดปมของรากมันฝรั่ง และการขยายพันธุ์ของไส้เดือนฝอยได้ อย่างไรก็ตามการทดลองในแปลงปลูกขนาด 1 x 2 เมตร โดยใช้สารอะบาเมคตินอัตรา 25 หรือ 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 5 ลิตร ราดดิน หรือจุ่มหัวพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารอะบาเมคตินอัตรา 1, 5 หรือ 10 มิลลิลิตร/ลิตร ให้ผลไม่แตกต่างกับการไม่ใช้สารอะบาเมคตินและการใช้สาร carbofuran อัตรา 10 กรัม/แปลง