โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มปริมาณต้นมันสำปะหลังในสภาพเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
#1
โครงการวิจัยและพัฒนาการเพิ่มปริมาณต้นมันสำปะหลังในสภาพเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อโดยเทคนิคเซลล์โซมาติก (โครงการวิจัยเดี่ยว)
กุลชาต นาคจันทึก, จิณณจาร์ หาญเศรษฐสุข และประพิศ วองเทียม
ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง สถาบันวิจัยพืชไร่

          การใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซินร่วมกับสารอะดีนิน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการชักนำเซลล์โซมาติกของมันสำปะหลังในการทดลองนี้ วางแผนการทดลองแบบ 3 x 5 factorial in Completely Randomized Design (CRD) จำนวน 4 ซ้ำโดยมี 2 ปัจจัย คือ พันธุ์มันสำปะหลัง ได้แก่ ระยอง 11 ระยอง 86-13และ ห้วยบง 80 กับ ชนิดของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด (ปี 2558) และระดับความเข้มข้นของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซินปีละ 5 ระดับ (ปี 2559 และปี 2560) โดยใช้ร่วมกับส่วนสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มไซโตไคนิน ได้แก่ adenine 2 มิลลิกรัมต่อลิตร พบว่าเมื่อนำเนื้อเยื่อส่วนข้อของพันธุ์ระยอง 11 ระยอง 86-13 และห้วยบง 80 มาเลี้ยงบนอาหารที่มีการเติมสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ picloram และ dicamba ที่สามารถชักนำให้เนื้อเยื่อมันสำปะหลังเป็นแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 60 ส่วนระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมพบว่า ระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 30 ไมโครโมล์ขึ้นไป จะสามารถชักนำให้เกิดแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 60

          การศึกษาปัจจัยการเกิดเซลล์โซมาติกจากคัพภะของลูกผสมเปิดจากต้นแม่มันสำปะหลังพันธุ์แนะนำในประเทศไทยในการทดลองนี้ วางแผนการทดลองแบบ 4 x 5 factorial in Completely Randomized Design (CRD) จำนวน 3 ซ้ำโดยมี 2 ปัจจัย คือ พันธุ์มันสำปะหลัง ได้แก่ ระยอง 2, ระยอง 5, ระยอง 11 และระยอง 60 กับ ชนิดของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด (ปี 2558) และระดับความเข้มข้นของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซินปีละ 5 ระดับ (ปี 2559 และปี 2560) พบว่าเมื่อนำคัพภะของพันธุ์ระยอง 2, ระยอง 5, ระยอง 11 และระยอง 60 มาเลี้ยงบนอาหารที่มีการเติมสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ picloram และ dicamba ที่สามารถชักนำให้คัพภะมันสำปะหลังเป็นแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 65 ส่วนระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมพบว่า ระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 30 ไมโครโมล์ขึ้นไป จะสามารถชักนำให้เกิดแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 65

          การศึกษาปัจจัยการเกิดเซลล์โซมาติกจากคัพภะของลูกผสมเปิดจากต้นแม่เชื้อพันธุกรรมมันสำปะหลังพันธุ์ที่ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์จำนวน 4 สำยพันธุ์ ในการทดลองนี้ วางแผนการทดลองแบบ 4 x 5 factorial in Completely Randomized Design (CRD) จำนวน 3 ซ้ำโดยมี 2 ปัจจัย คือ พันธุ์มันสำปะหลัง ได้แก่ Bathang, CMR50-73-6, MCub8 และ MCub23 กับ ชนิดของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด (ปี 2558) และระดับความเข้มข้นของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซินปีละ 5 ระดับ (ปี 2559 และปี 2560) พบว่าเมื่อนำคัพภะของพันธุ์ Bathang, CMR50-73-6, MCub8 และ MCub23 มาเลี้ยงบนอาหารที่มีการเติมสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ picloram และ dicamba ที่สามารถชักนำให้คัพภะมันสำปะหลังเป็นแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 67 ส่วนระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมพบว่า ระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 30 ไมโครโมล์ขึ้นไป จะสามารถชักนำให้เกิดแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 67

กิจกรรมที่ 2 การศึกษาปัจจัยการชักนำคัพภะให้เกิดเซลล์โซมาติกของลูกผสมมันสำปะหลัง
กุลชาต นาคจันทึก, จิณณจาร์ หาญเศรษฐสุข และประพิศ วองเทียม
          การศึกษาปัจจัยการเกิดเซลล์โซมาติกจากคัพภะของลูกผสมเปิดจากต้นแม่มันสำปะหลังพันธุ์แนะนำในประเทศไทยในการทดลองนี้ วางแผนการทดลองแบบ 4 x 5 factorial in Completely Randomized Design (CRD) จำนวน 3 ซ้ำโดยมี 2 ปัจจัย คือ พันธุ์มันสำปะหลัง ได้แก่ ระยอง 2, ระยอง 5, ระยอง 11 และระยอง 60 กับชนิดของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด (ปี 2558) และระดับความเข้มข้นของสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซินปีละ 5 ระดับ (ปี 2559 และปี 2560) พบว่าเมื่อนำคัพภะของพันธุ์ระยอง 2, ระยอง 5, ระยอง 11 และระยอง 60 มาเลี้ยงบนอาหารที่มีการเติมสารควบคุมการเจริญเติบโตกลุ่มออกซิน 5 ชนิด จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ picloram และ dicamba ที่สามารถชักนำให้คัพภะมันสำปะหลังเป็นแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 65 ส่วนระดับความเข้มข้นที่เหมาะสมพบว่า ระดับความเข้มข้นตั้งแต่ 30 ไมโครโมล์ขึ้นไป จะสามารถชักนำให้เกิดแคลลัสได้มากกว่าร้อยละ 65


ไฟล์แนบ
.pdf   20_2560.pdf (ขนาด: 680.46 KB / ดาวน์โหลด: 779)
ตอบกลับ




ผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้: 3 ผู้เยี่ยมชม