รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมนิทรรศการ “เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพืช”

วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๖
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมนิทรรศการ “เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านพืช” โดยกรมวิชาการเกษตร นำเสนอนิทรรศการผลงานเด่น อาทิ

– โครงการพัฒนายกระดับเทคโนโลยี มาตรฐานและเครื่องมือห้องปฏิบัติการ โรงเรือน แปลงผลิตพืช และการทดสอบทางการเกษตร (DOA Future Lab)
– DOA – Mushchar ผลิตภัณฑ์ไบโอชาร์จากก้อนเห็ดเก่า เพิ่มผลผลิตเห็ด ลดขยะเหลือศูนย์
– โปรตีนไฮโดรไลเซทจากเห็ดฟาง :นวัตกรรมจากพืชสู่ความงามที่ยั่งยืน
– การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนในพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ พืชผัก ไม้ผล (ทุเรียน, มะม่วง) พืชอุตสาหกรรม (กาแฟ, โกโก้) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหาร เวชสำอาง บรรจุภัณฑ์ และถ่านชีวภาพ
– กฤษณา ไม้มีค่า อนาคตไกล
– อากาศยานไร้คนขับกับงานอารักขาพืช
– การลดก๊าซเรือนกระจกเพื่อขอรับรองคาร์บอนเครดิตภาคเกษตร
– อ้อยพันธุ์ใหม่ กวก ขอนแก่น ๔
– สับปะรดเพชรบุรี กวก ๒ สับปะรดสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูป
– พืชไร่พันธุ์ดี อาหารมั่นคง
– การผลิตขยายเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วเพื่อความมั่นคงทางอาหาร
– สุดยอดกาแฟไทยยกระดับกาแฟให้เลื่องลือ
ในโอกาสนี้ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วยนายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช และคณะผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร และเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ร่วมบรรยายนิทรรศการ ณ ห้องประชุม ๑๑๕ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

การประชุมคณะกรรมการควบคุม กำกับ ดูแลห้องปฏิบัติการทดสอบสินค้าเกษตรและอาหารด้านพืช ครั้งที่ ๙/๒๕๖๖

วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๖ นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุม กำกับ ดูแลห้องปฏิบัติการทดสอบสินค้าเกษตรและอาหารด้านพืช ครั้งที่ ๙/๒๕๖๖ คณะกรรมการฯ ประเด็นการหารือเพื่อพิจารณาผลการตรวจติดตามและประเมินบริษัทที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้สุ่มเก็บตัวอย่างพืชควบคุมเฉพาะ จำนวน ๒ ครั้ง จัดทำแผนการตรวจติดตามและประเมินผู้สุ่มเก็บตัวอย่างพืชควบคุมเฉพาะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ พิจารณาการยื่นขยายขอบข่ายและขอแก้ไขขอบข่ายการยอมรับความสามารถของห้องปฎิบัติการ จำนวน ๓ แห่ง และพิจารณาการต่ออายุหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้สุ่มเก็บตัวอย่างพืชควบคุมเฉพาะ จำนวน ๑ แห่ง เพื่อเสนออธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงนามในหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนเป็นผู้สุ่มเก็บตัวอย่างพืชควบคุมเฉพาะ และหนังสือขอบข่ายการยอมรับความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบสินค้าเกษตรอาหารด้านพืช ต่อไป

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความสิริมงคล และถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน ๙ รูป

วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖ นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช และนายเกรียงไกร สุภโตษะ ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตร ร่วมกับกองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของทั้ง ๒ หน่วยงาน ร่วมกันทำบุญพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความสิริมงคลและถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน ๙ รูป เสริมขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคคลกร ณ ตึกแปดชั้น กรมวิชาการเกษตร

กมพ.คว้ารางวัล DOA TOGETHER AWARD และผลงานวิจัยดีเด่น ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ รวม ๓ รางวัล

วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๖ นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช และนายเกรียงไกร สุภโตษะ ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานคุณภาพสินค้าเกษตรร่วมแสดงความยินดีกับเจ้าหน้าที่และบุคลากรกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช ที่ได้รางวัล DOA TOGETHER AWARD ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ด้านงานวิจัยและการตอบสนองผู้รับบริการโดยการนำนวัตกรรมจากงานวิจัย เรื่อง การจัดชั้นคุณภาพเมล็ดกาแฟทางกายภาพและประสาทสัมผัสมาประยุกต์ใช้ในการจัดทำกระดาษคัดเกรด (Green Coffee Grading Guide) และได้แสดงความยินดีกับคณะผู้วิจัยกลุ่มพัฒนาระบบตรวจรับรองมาตรฐานสินค้าพืช (กตม.) ที่ได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น ประเภทงานบริการวิชาการ ระดับดีเด่น เรื่อง “การขึ้นทะเบียนผู้ผลิตสินค้าอาหารส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามระเบียบ ๒๔๘ ภายใต้การดำเนินงานของกรมวิชาการเกษตร” รวมถึงคณะผู้วิจัยกลุ่มพัฒนาระบบตรวจสอบคุณภาพสินค้า (กคส.) ได้รับรางวัลผู้ร่วมวิจัย ระดับชมเชยประเภทงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ในงานวิจัยเรื่อง “แผ่นเทียบสีสำหรับการเก็บเกี่ยวผลกาแฟเชอร์รีในระยะที่เหมาะสม” ซึ่งมีการมอบรางวัลโดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๖ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

การเข้าร่วมโครงการเป็นผู้ส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี ประจำปี 2567

ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลีสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ขอประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ส่งออกที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครการส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลีในปี ๒๕๖๗ ให้ส่งใบคำร้องแสดงความจำนงเข้าร่วม “โครงการเป็นผู้ส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี” ภายในวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๖

Download : ประกาศการเข้าร่วมโครงการเป็นผู้ส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี ประจำปี ๒๕๖๗

Download : แบบฟอร์ม ก.ก.๔ ใบคำร้องแสดงความจำนงเข้าร่วม “โครงการส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี”

Download : แบบฟอร์ม ก.ก.๔-๑ ถึง ๔-๔ แบบฟอร์มขึ้นทะเบียนมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี ประจำปี ๒๕๖๗

Download : แบบฟอร์ม ก.ก.๕ โครงการส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี ประจำปี ๒๕๖๗

Download : เอกสารแนบท้าย โครงการส่งออกมะม่วงอบไอน้ำไปสาธารณรัฐเกาหลี ประจำปี ๒๕๖๗

การประชุมคณะทำงานทบทวนหลักเกณฑ์และพิจารณา ขึ้นทะเบียนปัจจัยการผลิตพืชอินทรีย์ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖

วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๖ นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช เป็นประธานการประชุมคณะทำงานทบทวนหลักเกณฑ์และพิจารณา ขึ้นทะเบียนปัจจัยการผลิตพืชอินทรีย์ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๖ ณ ห้องประชุม ๒๐๑ ตึกกสิกรรม กรมวิชาการเกษตร โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายเกรียงไกร สุภโตษะ ผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐานคุณภาพการผลิตพืช คณะทำงานจากสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช เพื่อพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนปัจจัยการผลิตพืชพืชอินทรีย์ และขึ้นทะเบียนปัจจัยการผลิตที่สามารถใช้ในการผลิตพืชตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ประชุมหารือมาตรการแก้ไขปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนเพื่อการส่งออก

เมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ กรมวิชาการเกษตร ประชุมเพื่อหารือในระดับนโยบาย ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทูตเกษตร สมาคมผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ ผู้ประกอบการส่งออก เกษตรกร นักวิชาการอิสระ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวน ๒๐๙ คน การประชุมระดับนโยบายมีผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืชเป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งเป็นการระดมความเห็นเพื่อให้การบริหารจัดการหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนครอบคลุมในทุกมิติ โดยใช้กลไกของคณะทำงานแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ และการสวมสิทธิใบรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ของเกษตรกรเพื่อการส่งออกทุเรียนของประเทศไทย ซึ่งเป็นคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวอย่างมาตรการระยะเร่งด่วน มุ่งที่จะแก้ไขปัญหาผลผลิตพร้อมที่จะตัดออกจากสวนของเกษตรกร จึงกำหนดมาตรการ ให้มีการคัดกรองเพื่อลดความเสี่ยง จากแปลงเกษตรกร ได้แก่ การกำหนดมาตรการ ๔ กรอง
๑. การคัดทุเรียนคุณภาพ ให้เริ่มต้นจากสวน เช่น แยกแปลงที่มีการดูแลการกำจัด และควบคุมคุณภาพเป็นอย่างดี ซึ่งผลผลิตจะเรียกว่า ”ทุเรียนหนามเขียว”ต้องตัดผลผลิตที่มีคุณภาพ ให้บ่มเพื่อให้หนอนนออกมา และคัดลูกที่มีหนอนออก และนำผลผลิตที่คุณภาพสมบูรณ์ ส่งขายโรงคัดบรรจุ
๒. ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ หรือล้งเพิ่มขั้นตอนในการคัดทุเรียนที่มีหนอนติดมาโดยการบ่มแยกกองตามแหล่งที่มา แล้วกำจัดหนอน
๓. นายตรวจพืชเพิ่มเปอร์เซ็นต์การสุ่ม ณ โรงคัดบรรจุ
๔. เปิดตรวจสอบ ณ ด่านตรวจพืชปลายทาง ทั้งทางบกทางเรือ ทางอากาศ ทุกชิปเมนท์รับรองก่อนออกใบรับรองสุขอนามัยพืช
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงช่องทางจำหน่ายทุเรียนสดที่มีความเสี่ยงจากหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนต้องจำหน่ายไปยังตลาดบริโภคภายในประเทศ โรงงานแปรรูป เป็นทุเรียนทอด หรือทุเรียนกวน หรือการแกะเนื้อทุเรียนแช่แข็งเพื่อส่งออก ซึ่งมีหน่วยงานพร้อมให้การเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ได้แก่ กระทรวงพานิชย์ ส่วนราชการในจังหวัด รวมถึงผู้ประกอบการแปรรูป  

การฝึกอบรมหลักสูตร การตรวจรับรองแหล่งผลิต GAP ปาล์มน้ำมัน ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๖

เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตร การตรวจรับรองแหล่งผลิต GAP ปาล์มน้ำมัน ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๖ ณ โรงแรมวังใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎ์ธานี เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ตรวจประเมินมาตรฐานการผลิตพืช มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ มาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับปาล์มน้ำมัน (มกษ.๕๙๐๔-๒๕๖๔) เพื่อใช้ในการตรวจประเมินและรับรองแหล่งผลิต GAP ปาล์มน้ำมัน รองรับการเปิดขอบข่ายการรับรองแหล่งผลิต GAP ปาล์มน้ำมัน ในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน ๗๕ คน

การเข้าร่วมโครงการเป็นผู้ส่งออกผลมังคุดสดไปประเทศไต้หวัน ประจำปี 2567

ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการส่งออกผลมังคุดสดไปประเทศไต้หวัน สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ขอประชาสัมพันธ์แจ้งผู้ส่งออกที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครการส่งออกผลมังคุดสดไปไต้หวันในปี ๒๕๖๗ ให้ส่งใบคำร้องแสดงความจำนงเข้าร่วม “โครงการส่งออกผลมังคุดสดไปไต้หวัน” ภายในวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖

Download : เอกสารประกาศฯ และใบคำร้องแสดงความจำนงเข้าร่วม-โครงการส่งออกมังคุดอบไอน้ำไปไต้หวัน

Download : ใบคำร้องแสดงความจำนงเข้าร่วม “โครงการส่งออกผลมังคุดสดอบไอน้ำไปไต้หวัน” (แบบ ก.ก./ตว.๑)

Download : หนังสือรับรองการจดทะเบียนเครื่องอบไอน้ำ (แบบ ก.ก./ตว.๒)

กรมวิชาการเกษตร พร้อมหนุนหลังผู้ส่งออกดันผลไม้ไทยสู่ตลาดโลก

กรมวิชาการเกษตร พร้อมหนุนหลังผู้ส่งออกดันผลไม้ไทยสู่ตลาดโลก

กรมวิชาการเกษตร พร้อมหนุนหลังผู้ส่งออกดันผลไม้ไทยสู่ตลาดโลก กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร พร้อมหนุนหลังเกษตรกรไทย สู่เป้าหมายส่งออกผลไม้ไทยแสนล้าน ส่วนกรณีการสวมสิทธิ์สินค้าเกษตร ย้ำทุกฝ่ายต้องช่วยกันรักษามาตรฐาน นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร กล่าวในเวทีเสวนาในหัวข้อ “การส่งออกผลไม้ไทย “แสนล้าน” สู่ตลาดโลก : เงื่อนไข กฎ ระเบียบ และแนวโน้มการส่งออก” โดยระบุว่า กรมฯไม่ได้อยากทำตัวเป็น regulator แต่ต้องการเป็น supporter หรือว่าเป็นคนอำนวยความสะดวกคอยสนับสนุนให้กับผู้ส่งออกทุกคน ซึ่งผู้ประกอบการบางส่วนหรือเกษตรกรบางส่วนก็ได้เข้ามาสู่ระบบ GAP หรือขึ้นทะเบียนกับกรมฯ อย่างไรก็ตามการขึ้นทะเบียนก็แล้วแต่ความสมัครใจของเกษตรกรแต่ละคน เพราะไม่ใช่ภาคบังคับ

ประการต่อมาที่เน้นย้ำสำหรับการส่งออก นั่นก็คือ คุณภาพ กับมาตรการสุขอนามัย สุขอนามัยพืช กล่าวคือ แมลงศัตรูพืช กับเรื่องสารตกค้าง กับเรื่องของการปนเปื้อน เมื่อโรงคัดบรรจุมีความเข้าใจในเรื่องนี้ สามารถที่จะตรวจสอบดูแลตัวเองได้ ขึ้นทะเบียนได้ กรมวิชาการเกษตรก็สามารถปล่อยมือได้เลย และทำหน้าที่กำกับดูแล ติดตามมอนิเตอร์

นายชัยศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการขนส่งสินค้า ที่ถือเป็นจุดอ่อน -จุดเสี่ยง โดยในช่วงที่ผ่านมามีกรณีการแอบสวมสิทธิ์ -แอบเปิดตู้ระหว่างทาง ซึ่งการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก็ได้สร้างซีลสร้างโลโก้ขึ้นมา แล้วไปสู่กระบวนการเจรจาบนโต๊ะ

“สิ่งเหล่านี้เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เรามีเชือกเป็นซัพพลายเซน เราไม่อยากผูกปมเพิ่มขึ้นมาปีละปมสองปม เราอยากให้เป็นซัพพลายเซนที่เป็นเชือกเส้นเดียวที่ไม่มีปมเลย อยากถอยสู่การกำกับดูแล อยากให้ทุกคนสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง อันนี้เป็นเป้าหมายของกรมวิชาการเกษตร ทุกคนสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ กรมวิชาการเกษตรมีเงื่อนไข มีกฎระเบียบ พร้อมซัพพอร์ท วันนี้มีช่องทางอยู่ การก้าวไปสู่จุดนั้นคือการร่วมมือร่วมใจของพวกเรา”นายชัยศักดิ์ รินเกลื่อน ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร

ด้านนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการสวมสิทธิ์สินค้าเกษตร ตรงนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายของกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงไม่เพียงพอ แต่ทุกฝ่ายต้องสมัครใจ ของทั้งห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดต้องสมัครใจ ร่วมกันในการรักษามาตรฐานของผลไม้ อาทิ ทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออก หรือ จันทบุรีโมเดล ที่มีการคัดคุณภาพโดยความสมัครใจของ ล้ง และเกษตรกร หากพบทุเรียนอ่อนไม่ได้มาตรฐานจะมีการปรับ ๕๐๐ บาทต่อลูก ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีการรักษาคุณภาพ

ข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ