วันที่ 4 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ สวพ.7 ได้รับแจ้งจากในพื้นที่จังหวัดชุมพรในตลาดเลิศพร 2 มีการคัดบรรจุในพื้นที่ของโรงคัดบรรจุที่ถูกระงับการส่งออกเนื่องจากมีการปนเปื้อนแคดเมียม
นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 (ผอ.สวพ.7) มอบหมายนายอุดมพร เสือมาก ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตรระนอง นายสมชาย มณีโชติ เจ้าพนักงานการเกษตรชำนาญงาน พร้อมด้วยนางสาววัชรี วิทยวรรณกุล หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือระนอง ลงพื้นที่ ร่วมกับเกษตรจังหวัดชุมพร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พบโรงคัดบรรจุดังกล่าวมีพื้นที่ติดกัน แบ่งเป็น 2 สาขา คือ สาขา 4 และ สาขา 6 โดยสาขา 6 ถูกระงับส่งออก พื้นที่ทั้ง 2 ส่วนมีทุเรียนคัดบรรจุกล่องเรียบร้อยวางอยู่ และมีบางส่วนบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์พร้อมส่งออก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสติ๊กเกอร์ขั้ว และสติ๊กเกอร์ข้างกล่องพบว่ามีการใช้เลขทะเบียน DOA สถานที่อื่นๆ แต่เจ้าของโรงคัดอ้างว่านำทุเรียนไปขายห้องเย็น จึงอายัดทุเรียนไว้ เพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม เตรียมดำเนินการยกเลิกทะเบียน DOA ดังกล่าว
วันที่ 5 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ สวพ.7 และด่านตรวจพืชท่าเรือระนอง เข้าตรวจโรงคัดบรรจุอีกครั้ง จากการทวนสอบข้อมูลการใช้ GAP ข้างกล่องเป็นของพื้นที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร เมื่อทวนสอบไปยังเกษตรกรพบว่าเกษตรกรไม่มีการจำหน่ายผลผลิตทุเรียนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ให้เกษตรกรดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี และสวพ.7 เตรียมดำเนินการเอาผิดทางกฏหมายกับโรงคัดบรรจุดังกล่าว
เมื่อสอบทางโรงคัดบรรจุอีกครั้ง แจ้งว่าซื้อมาจาก อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช สวพ.7 อยู่ระหว่างทวนสอบไปยังเกษตรกรและเกษตรอำเภอในพื้นที่ และสุ่มตรวจสอบเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้ง พบว่ามีเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้ง 35% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานในทุเรียนหมอนทอง และทำการสุ่มทุเรียนเพื่อส่งวิเคราะห์การปนเปื้อนแคดเมียมต่อไป และได้ติดตามการขนย้ายทุเรียนดังกล่าวมาทำการขายบริษัทห้องเย็นจริงไม่ได้มีการนำไปส่งออก
ทั้งนี้นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า หากผู้ประกอบการกระทำผิดกรมวิชาการเกษตรออกคำสั่ง “ระงับหรือยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช, ทะเบียน DOA” (ระงับล้งที่กระทำความผิด) ซึ่งเป็นการนำการขึ้นทะเบียนไปใช้หรืออ้างอิงในทางที่ทำให้เกิดความเสียหาย หรืออาจทำให้เข้าใจผิดในการหรืออาจทำให้เข้าใจผิดในการได้รับการขึ้นทะเบียนนั้นๆ ปฏิบัติไม่เป็นไปตามข้อ 7.3 ของประกาศกรมวิชาการเกษตรเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืช พ.ศ. 2567 และย้ำขอให้พี่น้องเกษตรกรเก็บรักษาใบ GAP ไว้อย่างดี ใบรับรอง GAP ของท่านมีค่าอย่าให้ใครนำมาใช้สวมสิทธิ์