เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบาย “ยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง” ของกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ลิ้นจี่นครพนม 1 ณ แปลงใหญ่ลิ้นจี่นครพนม 1 บ้านอุทัยรัศมี อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยมี นางวิลาวัณย์ ใคร่ครวญ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวรายงานผลการดำเนินงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสื่อมวลชนเข้าร่วม
นางวิลาวัณย์ ใคร่ครวญ เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินการขับเคลื่อนการทำงานภายใต้นโยบาย “เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน” ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ โดยลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 ถือเป็นผลงานวิจัยสำคัญที่พัฒนาโดยกรมวิชาการเกษตรจากการคัดเลือกพันธุ์ในพื้นที่บ้านนาโดน ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ก่อนถ่ายทอดเทคโนโลยีและเผยแพร่สู่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 มีลักษณะเด่น คือ มีรสหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาด เนื้อแห้งไม่ฉ่ำน้ำ ขนาดผลใหญ่ และให้ผลผลิตก่อนลิ้นจี่ภาคเหนือ โดยเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่เดือนเมษายน ทำให้ไม่ประสบปัญหาด้านตลาด โดยปัจจุบันพื้นที่ปลูกลิ้นจี่ในจังหวัดนครพนมมี 2,969 ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 2,500 ตันต่อปี ผลผลิตเฉลี่ย 50–180 กิโลกรัมต่อต้น ขึ้นอยู่กับอายุต้นเกษตรกรต้นแบบแปลงใหญ่ นางรัศมี อุทาวงค์ เจ้าของสวนลิ้นจี่ “นครพนม 1 อุทัยรัศมี” ได้นำแนวทางการผลิตตามคำแนะนำของกระทรวงเกษตรฯ มาปฏิบัติอย่างจริงจัง ทั้งการเลือกพื้นที่ปลูก การใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ การตัดแต่งกิ่ง และการป้องกันศัตรูพืช ตลอดจนการบริหารต้นทุนด้วยการทำบัญชีฟาร์ม และรวมกลุ่มเกษตรกรเป็นแปลงใหญ่เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองด้านราคา สวนลิ้นจี่ของนางรัศมี มีพื้นที่ 8 ไร่ ปลูกลิ้นจี่ด้วยระยะปลูก 8×8 เมตร จำนวน 24 ต้นต่อไร่ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 2,400 กิโลกรัมต่อไร่ โดยจำหน่ายในราคาตั้งแต่ 80–150 บาทต่อกิโลกรัม สร้างรายได้กว่า 240,000 บาทต่อไร่ นอกจากนี้ยังสามารถจำหน่ายต้นพันธุ์เสริมรายได้อีกทางหนึ่ง
นางรัศมี อุทาวงค์ ยังได้ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการผลิตที่ได้จากประสบการณ์ตรงให้แก่สมาชิกในกลุ่มและผู้สนใจ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตรงตามเป้าหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งพัฒนาเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้มั่นคง และภูมิใจในอาชีพเกษตรกรรม
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวย้ำถึงการสนับสนุนเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเกษตรที่มีมูลค่าสูง สอดรับกับการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
Users Today : 781
Views Today : 2324
Who's Online : 22
