ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสารเคมี และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบสาเหตุ หากพบความผิด หรือบกพร่อง ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้สั่งการ ให้นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่เกิดเหตุ และสอบสวนข้อมูลที่บริษัทรมยา เพื่อปฏิบัติงานร่วมกับจังหวัดและกรมควบคุมมลพิษ โดยในเบื้องต้นได้รับทราบข้อมูล ดังนี้
1 บริษัท TCIS เป็นผู้ประกอบการรมยากำจัดศัตรูพืชไดัขนย้ายกากสาร Phosphine จากหลังจากที่ใช้รมยาให้ลูกค้า เพื่อเอาไปกำจัด
2 จากข้อมูลรมยาของ TCIS เป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในไซโลข้าวสาร จ.นนทบุรี และครบ 5 วัน แล้ว จึงเก็บกากสาร Phosphine ออกมา ซึ่งสารยังไม่หมดฤทธิ์ เนื่องจากอุณหภมิอากาศต่ำกว่าปกติทำให้สารหมดฤทธิ์ช้ากว่ากำหนด
3 สาเหตุเกิดจากเจ้าหน้าที่รมยาของ TCIS ไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนจัดเก็บกากเพื่อนำไปกำจัดและมีการขนย้ายผิดวิธี
4 ในระหว่างขนกากสาร Phosphine ซึ่งบรรจุในถัง จึงเกิดการทำปฎิกิริยาจนเกิดไฟลุก
5 เมื่อระงับเหตุผิดวิธีโดยใช้นำ้ฉีด รวมถึงทรายเปียกดับ จึงเป็นการเร่งให้เกิดไฟไหม้และเกิดควันเพิ่มขึ้น หลังได้รับคำแนะนำวิธีจัดการที่ถูกต้อง โดยการเทสารแล้วเกลี่ยให้กระจายกากสารในถังและไฟมอด แล้วจะหมดฤทธิ์ไปเอง ซึ่งผลการตรวจสอบสารในพื้นที่เกิดเหตุและกากสารที่เก็บไว้ในสถานที่เก็บได้หมดฤทธิ์ และมีการเก็บอย่างปลอดภัย ก่อนนำไปกำจัดต่อไป
6 กรณีของบริษัท TCIS ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้รมยา โดยได้รับอนุญาตให้ครอบครอง สาร Phosphine รวมถึงมีเจ้าหน้าที่บริษัทที่ผ่านการอบรมและได้รับอนุญาตให้รมยาอย่างถูกต้อง
7. สาร Phosphine เป็นสารรมเพื่อกำจัดศัตรูพืช ที่กำกับดูแลการขอทะเบียนและออกใบอนุญาต จากกรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการ พักใช้บัตรกับผู้รมยาที่เกี่ยวข้องทันที พร้อมทำหนังสือสั่งการให้ บริษัท TCIS ชี้แจงสาเหตุ พร้อมกับมอบหมายนายตรวจพืชตรวจสอบข้อผิดพลาดในการดำเนินการของบริษัท เป็นไปตามกฎระเบียบ รวมทั้งกรมได้เพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาต ใบทะเบียน รวมถึงการควบคุม กำกับดูแลผู้ได้รับอนุญาตรมยา เพื่อกำจัดศัตรูพืชด้วยสารรมให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
Users Today : 188
Views Today : 399
Who's Online : 13
