1. Home
  2. »
  3. ข่าวผู้บริหาร
  4. »
  5. เยี่ยมชมการจัดนิทรรศการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร…

เยี่ยมชมการจัดนิทรรศการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เยี่ยมชมการจัดนิทรรศการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ในโอกาสนี้ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร นำเสนอข้อมูลการ จัดนิทรรศการของกรมวิชาการเกษตร ในหัวข้อ “นวัตกรรมการผลิตกาแฟอย่างยั่งยืน” ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 2/2567 บริเวณด้านหน้าหอประชุมพญางำเมือง มหาวิทยาลัยพะเยา

กรมวิชาการเกษตร ได้จัดการประกวดสุดยอดกาแฟไทยชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้และสานต่อแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมให้เกษตรกรบนพื้นที่สูงนำกาแฟซึ่งเป็น พืชเศรษฐกิจ ไปปลูกในป่า สร้างรายได้จากกาแฟและช่วยดูแลป่า และสร้างการรับรู้อัตลักษณ์กาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในระดับประเทศและระดับสากล

ด้านนวัตกรรมเด่นกรมวิชาการเกษตรที่นำเสนอนายกรัฐมนตรี กรมวิชาการเกษตรมีการขยายผลการใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อย่อยสลายตอซังฟางข้าวสำหรับการเตรียมดินในแปลงนาเขตชลประทาน ช่วยเกษตรกรลดการเผา เพิ่มธาตุอาหารในดิน ลดค่าปุ๋ย ซึ่งสามารถย่อยสลายตอซังและฟางข้าวภายในระยะเวลา 7 วัน ซึ่งนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตร ได้ให้ความสนใจ และให้เป็นนโยบายสำคัญในการแก้ปัญหาการเผาตอซังฟางข้าว ที่จะช่วยลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในภาคการเกษตร รวมถึง งานวิจัยเครื่องมือเก็บเกี่ยวกาแฟที่ออกแบบเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย ในราคาเครื่องละ 5,000 บาท ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็วกว่าแรงงานคน 5 เท่า (60 กิโลกรัม/ชั่วโมง) โดยการเก็บเกี่ยวไม่ก่อความเสียหายแก่ต้นกาแฟ และนวัตกรรมการใช้สารชีวภัณฑ์ เชื้อราบิวเวอร์เรีย (Beauveria bassiana) ที่มีความเฉพาะเจาะจงกับมอดเจาะผลกาแฟ (DOA B18) อัตรา 1-2 ถุง ต่อน้ำ 10 ลิตร ฉีดพ่นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงติดผลจนถึงเก็บเกี่ยว ซึ่งเชื้อราดังกล่าวจะแทงเส้นใยเข้าไปทำลายอวัยวะภายในตัวแมลง ส่งผลให้แมลงอ่อนแอ ป่วย และตายในที่สุด

ในส่วนของนิทรรศการที่นำมาจัดแสดง กรมวิชาการเกษตรได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตกาแฟอาราบิกาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เพื่อให้เป็นสินค้าเกษตร ปลอดภัย มูลค่าสูง ตามนโยบายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการยกระดับสินค้าเกษตร เสริมศักยภาพเกษตรกร ทำการเกษตรใส่ใจสิ่งแวดล้อมซึ่ง “นวัตกรรมการผลิตกาแฟอย่างยั่งยืน” ประกอบด้วย 4 นวัตกรรม ได้แก่

1. พันธุ์และเทคโนโลยีการผลิต นำเสนอพันธุ์กาแฟอาราบิกา จำนวน 4 พันธุ์ (พันธุ์ กวก เชียงใหม่ 80, พันธุ์ กวก เชียงราย 1, พันธุ์ กวก เชียงราย 2, พันธุ์คาร์ติมอร์ และพันธุ์กาแฟโรบัสตา จำนวน 2 พันธุ์ (พันธุ์ กวก ชุมพร 2 และพันธุ์ กวก ชุมพร 4) ซึ่งให้ผลผลิตสูง และต้านทานโรคราสนิม รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตกาแฟอาราบิกา และโรบัสตา ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ การปลูก การบำรุงดูแลรักษา การตัดฟื้นต้นกาแฟ เทคโนโลยีการผลิตกาแฟร่วมกับพืชอื่น การใส่ปุ๋ยอย่างถูกต้อง การป้องกันกำจัดโรค และแมลงที่สำคัญ โดยเฉพาะมอดเจาะผลกาแฟ

2. วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูป ได้แก่ ดัชนีการเก็บเกี่ยวกาแฟ การจัดชั้นคุณภาพของเมล็ดกาแฟโดยใช้วิธีทางกายภาพโดยวิธีการคัดเกรด (Green grading coffee) การหมักเมือกกาแฟจากจุลินทรีย์ เป็นต้น

3. เทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร และเครื่องมือแปรรูปสำหรับกาแฟ ได้แก่ เครื่องมือเก็บเกี่ยว กาแฟ พัฒนาต้นแบบเครื่องหมักกาแฟ เครื่องล้างทำความสะอาดผลกาแฟ และเครื่องหมักกาแฟ เป็นต้น

4. การสร้างมูลค่าเพิ่มจากกาแฟ ได้แก่ ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคแอนแทรคโนสจากเปลือกหุ้มเมล็ดกาแฟสารปรุงรสอาหาร (ซอสผงปรุงรสและแป้งจากเปลือกกาแฟ) สารเคลือบผิวผลไม้เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาจากเมือกกาแฟ ซึ่งการนำ “นวัตกรรมการผลิตกาแฟอย่างยั่งยืน” มาดำเนินการในพื้นที่จังหวัดพะเยา จะก่อให้เกิดเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกต้อง เหมาะสม สามารถพัฒนากาแฟที่ผลิตอยู่ในพื้นที่ ให้มีคุณภาพตามความต้องการของตลาด ส่งเสริมการผลิตตามมาตรฐาน ผลผลิตปลอดภัย ยกระดับกาแฟคุณภาพ ที่มีความปลอดภัยสูง สามารถเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์กาแฟของเกษตรกร สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการเพิ่มรายได้ภาคเกษตร 3 เท่าใน 4 ปี

    Related
    Skip to content