1. Home
  2. »
  3. ประชาสัมพันธ์
  4. »
  5. รมช.มนัญญา นำ กรมวิชาการเกษตร โชว์สุดยอดนวัตกรรมปุ…

รมช.มนัญญา นำ กรมวิชาการเกษตร โชว์สุดยอดนวัตกรรมปุ๋ย และการจัดการศัตรูพืช ต่อ นายกรัฐมนตรี และ ครม.

รมว.เฉลิมชัยและรมช.มนัญญาสั่งการให้กรมวิชาการเกษตรจัดนิทรรศการปุ๋ยชีวภาพและการจัดการศัตรูพืชให้นายกรัฐมนตรีและครม. ชูนโยบาย 3 S แสดงผลสำเร็จลดเลิกใช้สารเคมีโดยใช้นวัตกรรมปุ๋ยชีวภาพและการกำจัดศัตรูพืชด้วยสารสกัดจากพืชและชีวภัณฑ์สนับสนุนส่งเสริมการผลิตระบบเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย (GAP) ตามนโยบายรัฐบาล

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  กรมวิชาการเกษตรมีนวัตกรรมทางการเกษตรในการกำจัดศัตรูพืชเพื่อผลิตอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคทั้งในประเทศและส่งออก  ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดรับตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ประเด็นการพัฒนาภาคการเกษตรให้ส่งเสริมและเร่งขยายผลแนวคิดการทำเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  โดยควบคุมการใช้สารเคมีการเกษตรที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพทดแทนสารเคมีเกษตรให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการเพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

กรมวิชาการเกษตรจึงได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลสนับสนุนการผลิตอาหารที่ปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม โดยวิจัยและพัฒนาสารสกัดธรรมชาติชีวภัณฑ์เครื่องจักรกลทางการเกษตรปุ๋ยชีวภาพการผลิตปุ๋ยอินทรีย์มาใช้สนับสนุนเป็นปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีความปลอดภัยและสามารถผลิตใช้ได้เองภายในประเทศ 

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ผลการดำเนินการด้านชีวภัณฑ์ต่าง ๆ ของกรมวิชาการเกษตรและของบริษัทที่มาขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร ในการควบคุมศัตรูพืช (วัชพืช แมลง โรคพืช)ได้แก่กลุ่มควบคุมวัชพืช  สารสกัดจากยูคาลิปตัส  ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ขึ้นทะเบียนสารสกัดจากยูคาลิปตัสเป็นสารกำจัดวัชพืชประเภทใบแคบ เช่น หญ้าขจรจบดอกเล็ก หญ้าตีนนก และวัชพืชประเภทใบกว้าง เช่น บาหยา และสาบม่วง และวัชพืชประเภทกก เช่น กกตุ้มหู  และยังมี สารสกัดแมงลักป่าซึ่งเป็นผลงานของสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช  และกองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร โดยได้ต้นแบบผลิตภัณฑ์เป็นสูตรสารละลายน้ำมันเข้มข้น 2 สูตร

กลุ่มควบคุมแมลงศัตรูพืช  ได้แก่ ราเขียวเมตาไรเซียมป้องกันกำจัดด้วงแรดซึ่งเป็นศัตรูสำคัญในมะพร้าวและพืชตระกูลปาล์ม และด้วงหนวดยาวศัตรูสำคัญในอ้อย   ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด  เชื้อแบคทีเรียบีทีใช้ในการควบคุมหนอนผีเสื้อศัตรูพืช ไวรัสเอ็นพีวีใช้ควบคุมหนอนกระทู้ผัก  หนอนกระทู้หอม และหนอนเจาะสมอฝ้าย  นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สารกำจัดแมลงศัตรูพืช    จากสารสกัดพืช รูปแบบใหม่ 2 ชนิด เป็นผลิตภัณฑ์สูตรผสม สะเดา+หางไหล และ ว่านน้ำ+หางไหล ด้วยนวัตกรรมการผลิตแบบนาโนเทคโนโลยี โดยพัฒนาระบบนำส่งสารออกฤทธิ์ที่สำคัญให้มีอนุภาคขนาดเล็กมากในระดับนาโน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแทรกซึมเข้าสู่ตัวแมลงศัตรูพืชเป้าหมาย และกระจายตัวเข้าสู่ในใบพืชได้ดียิ่งขึ้น สามารถออกฤทธิ์ในการควบคุมหนอนใยผักที่เป็นแมลงศัตรูสำคัญที่ทำความเสียหายกับคะน้าและพืชตระกูลกะหล่ำ  กลุ่มที่ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืช  ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียบีเอส ใช้ควบคุมโรคแอนแทรคโนส ในพริก มะม่วง โรคใบจุดพืชตระกูลกะหล่ำ และโรคเหี่ยว เชื้อราไตรโคเดอร์มาใช้ควบคุมโรคตายพรายของกล้วย   และเห็ดเรืองแสงสิรินรัศมีใช้ควบคุมไส้เดือนฝอยรากปมในแหล่งปลูกพริก มันฝรั่ง และฝรั่ง 

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังมีงานวิจัยปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ทูสำหรับข้าว ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร  จากการวิจัยในแปลงเกษตรกรพบว่าการใช้ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์-ทูร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำตามค่าวิเคราะห์ดิน และใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวเพียง 15 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรลดลงได้ 771 บาทต่อไร่ คิดเป็นร้อยละ 52.2 เมื่อเทียบกับวิธีเกษตรกร โดยให้ผลผลิตข้าวไม่แตกต่างกัน ซึ่งลดต้นทุนค่าปุ๋ยได้ 547 บาท และค่าเมล็ดพันธุ์ได้ 187 บาท ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนขอเข้ารับการอบรม ถ่ายทอดเทคโนโลยี และขอรับสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือกรมวิชาการเกษตรในการผลิต จำนวน 13 บริษัท รวม 23 สัญญา 

           สำหรับสารไกลโฟเซตซึ่งเกษตรกรยังมีความจำเป็นต้องใช้ตามมาตรการจำกัดการใช้ กับพืช 6 ชนิด ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล และยางพารา กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแผนการออกใบอนุญาตนำเข้าวัตถุอันตรายไกลโฟเซต ในปี 2565 และ ปี 2566 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 – ปัจจุบัน ได้ออกใบอนุญาตนําเข้าวัตถุอันตรายไกลโฟเซต จํานวน 23,044.70 ตัน จากข้อมูลการนำเข้าไกลโฟเซตจนถึง วันที่ 30 กันยายน 2565 พบว่า ผู้ประกอบการมีการนําเข้าวัตถุอันตรายไกลโฟเซตแล้ว จํานวน 17,785.92 ตัน ยังไม่ได้นำเข้าประมาณ 5,258.78 ตัน ในปี 2566 มีการจัดทำแผนการอนุญาตให้นำเข้าไกลโฟเซตตามที่กฎหมายกำหนด จำนวน 29,333.64 ตัน 

ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้เผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับทางเลือกการจัดการวัชพืชการใช้แรงงานและการใช้เครื่องจักรกล  และการใช้หลายวิธีผสมกันรวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการศัตรูพืชเฉลี่ยต่อไร่ของแต่ละวิธี  เพื่อเป็นแนวทางให้เกษตรกรใช้เป็นวิธีการจัดการวัชพืชได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้  ผู้บริโภคและสภาพแวดล้อมเป็นทางเลือกให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยลดปัญหาสารพิษตกค้างในผลผลิตเกษตรและสิ่งแวดล้อม  เพื่อส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว

Related
แชท
Skip to content