นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ย้ํา ใช้ “จันทบุรีโมเดล” คุมเข้มทุเรียน ภาคใต้ สั่งตรวจเข้มคุณภาพทุเรียนส่งออกต้องได้ทั้งคุณภาพ ปลอดแมลงศัตรูพืช รวมไปถึงตรวจสอบ แหล่งที่มาได้ ย้ําเกษตรกรเมื่อตัดทุเรียนส่งโรงคัดบรรจุ ต้องแสดงใบ GAP ให้โรงคัดบรรจุด้วย ซึ่งทางประเทศ จีนได้ขึ้นทะเบียน GAP ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 66 โดยเป็น GAP ทุเรียน จํานวน 74,136 แปลง อยู่ใน ภาคใต้ 38,181 แปลง และ ล่าสุดวันที่ 15 มิ.ย. 66 ทางกรมวิชาการเกษตรได้ส่งทะเบียน GAP ให้จีนผ่านทูต เกษตรปักกิ่ง เพื่อขี้นทะเบียนในรอบถัดไปแล้ว อยู่ระหว่างรอจีนพิจารณาขึ้นทะเบียน โดยเป็น GAP ทุเรียน จํานวน 72,488 แปลง อยู่ในภาคใต้ 40,107 แปลง จึงมั่นใจว่าจํานวนใบ GAP สําหรับการส่งออกมีเพียงพอ อย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อให้สอดรับมาตรฐานการส่งออกตามพิธีสารไทย-จีน หากใบ GAP ส่งออกไม่ได้ ติดต่อเจ้าหน้าที่สายด่วนกรมวิชาการเกษตร 081-9384408
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่ทํางานอย่างหนัก ซึ่งผู้บริโภคชาวจีนรับรู้ รสชาต คุณภาพ ของทุเรียนไทยที่มีความเป็นอัตลักษณ์ ไม่ เหมือนประเทศอื่น พิสูจน์ได้จาก ในฤดูกาลส่งออกทุเรียนของไทยภาคตะวันออกที่ผ่านมา สามารถส่งออกไป จีนได้ในราคาสูง ขอให้เกษตรกร ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รักษาคุณภาพการผลิต ต้นน้ํา กลางน้ํา ปลายน้ํา เพื่อให้ทุเรียนทุกลูกที่ส่งออกไปจีนมีคุณภาพ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่ง ผู้อํานวยการสํานักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ผู้อํานวยการกองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐาน สินค้าพืช ในวันที่ 27-28 มิ.ย. 66 เพื่ออํานวยความสะดวก ประชุมชี้แจงการทํางานกับหน่วยงาน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดขึ้นทะเบียน GAP บริการอื่นๆ ของกรมวิชาการเกษตรเคลื่อนที่อํานวยความสะดวก ลดภาระในการเดินทางของเกษตรกร
สถานการณ์ทุเรียนใต้ ราคารับซื้อทุเรียน วันที่ 20-24 มิ.ย. 2566 AB อยู่ที่ 120-125 บาท ซ่ึงถือว่า ราคาสูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงนี้ทุเรียนเวียดนาม เริ่มมีการเก็บเกี่ยวผลผลิต บวกกับประเทศ ไทยมีผลไม้ในฤดูกาลออกหลายชนิด ได้แก่ มังคุด เงาะ ลิ้นจี่ ทําให้ราคาทุเรียนลดลง จากช่วงต้นเดือนที่ผ่าน มา โดยราคาทุเรียนจะดีดตัวสูงขึ้นในช่วงปลายมิถุนายน จากผลผลิตที่มีไม่มากนัก เนื่องจากสถานการณ์ภัย แล้งในพื้นที่จังหวัดชุมพรทําให้ผลผลิตต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ 330,000 ตัน เหลือประมาณ 230,000 ตัน
นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อํานวยการสํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 กรมวิชาการเกษตร (ผอ.สวพ.7) กล่าวว่า สวพ.7 และ สวพ.8 ได้ร่วมกับศูนย์เครือข่าย ด่านตรวจพืช เกษตรจังหวัด และฝ่าย ปกครองจังหวัด ตรวจเข้มคุณภาพทุเรียนก่อนส่งออกตั้งแต่แปลงเกษตรกร ผู้ตัด ผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความ เชื่อมั่นให้กับประเทศจีน โดยได้นําเอาวิธีการจัดการ “จันทบุรีโมเดล” มาเป็นแบบอย่างสร้างมาตรฐานทุเรียน คุณภาพของภาคใต้ ปัจจุบันพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ได้เปิดทําการแล้ว 214 โรง ในจังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช คาดว่า จะเปิดครบทั้งหมดในปลายเดือน ก.ค. ซึ่งกรม วิชาการเกษตร จะใช้มาตรการตรวจอย่างเข้มข้นในการควบคุมคุณภาพทุเรียนก่อนการส่งออก
สําหรับความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการเตรียมความพร้อม สวพ.7 และ สวพ.8 บูรณาการ ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ สร้างความเข้าใจกับเกษตรกร ผู้ประกอบการ ตั้งแต่ ก่อนเปิดฤดูกาล มีการประชุมหารือคณะทํางานเตรียมความพร้อม ร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัด ชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ สํานักงานมาตรฐาน สินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ใน วันที่ 24 พ.ค. จัดประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติการส่งออกทุเรียนคุณภาพให้กับผู้ประกอบการล้งภาคใต้
การดําเนินงานร่วมกับสํานักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ เน้นย้ําให้มี การขึ้นทะเบียน นักคัด นักตัด ทุเรียน โดยสํานักงานเกษตรจังหวัด และภาคเอกชนในพื้นที่ จัดอบรมนักคัด นักตัด ทุเรียนมืออาชีพโดยเปิด อบรมฟรี ตัั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นมา มีการจัดอบรมไปแล้วกว่า 1,000 ราย ซึ่งสามารถช่วยลดปัญหาการตัด ทุเรียนอ่อนได้
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร ได้จัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในการตรวจ คุณภาพทุเรียน จํานวน 104 ชุด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติงานเพื่อรองรับการดําเนินการส่งออกทุเรียน ตลอดฤดูกาลโดยชุดเฉพาะกิจดังกล่าวได้ออกตรวจติดตามล้งตั้งแตก่่อนวันประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียนวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจ ทุกตู้ ทุกล้ง เพื่อทําการตรวจแยกสีล้ง ให้เป็นสีเขียว เหลือง แดง หลัง วันที่ 10 มิ.ย. มีการวางแผนการเข้าตรวจตามประเภทล้งที่ได้จัดเกรดไว้ ล้งที่ได้สีเขียว หมายถึง ล้งที่มีการ ปฏิบัติตามระเบียบที่กําหนด ส่วนสีเหลืองและแดง คือล้งที่อาจจะมีการปฏิบัติที่คลาดเคลื่อนไปบ้างและจะต้อง เพิ่มความถี่ในการเข้าตรวจอย่างต่อเนื่องขอย้ําใหทุ้กล้งปฏิบัติตามแนวทางที่กรมวิชาการเกษตรกําหนดไว้ อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นสีเขียว ซึ่ง สวพ. 7 และ 8 จะส่งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจฯ เข้าสุ่มตรวจติดตาม อย่างต่อเนื่องจนกว่าหมดฤดูกาล
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ย้ําคุมเข้มทุเรียนใต้ ต้องได้ทั้งคุณภาพเหมือนภาคตะวันออก บูรณาการ ตรวจเข้มลงพื้นที่ 27-28 มิ.ย นี้ เปิดสายด่วน กรมวิชาการเกษตร 081-9384408 พร้อม ขึ้นทะเบียน GAP บริการ Clinic เกษตรเคลื่อนที่ เพื่ออํานวยความสะดวกให้ ประชาชน เกษตรกร เน้นย้ํา มาตรการควบคุม คุณภาพและป้องกันสวมสิทธิ์ทุกรูปแบบโดยการบรูณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทาง DOA Together