เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์ มอบหมายให้นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ติดตามผลการปฏิบัติงานและมอบนโยบาย แก่ด่านตรวจพืชพื้นที่จังหวัดสงขลา ในการตรวจสอบและควบคุมการนำเข้า – ส่งออก สินค้าเกษตร (พืช) และปัจจัยการผลิตทางการเกษตร โดนเน้นย้ำให้ป้องกันและปราบปราม การจำหน่ายปุ๋ย และยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ปลอม ผิดมาตราฐาน รวมถึงการลักลอบนำเข้าสินค้าพืชและปัจจัยการผลิตทางการเกษตร โดยให้ด่านตรวจพืชดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของกรมวิชากรเกษตร และกฎหมายอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มงวด
ในกรณีที่พบผู้ผลิตปุ๋ยมีเพื่อการค้าปลอม จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท แต่หากผู้กระทำผิด กระทำโดยไม่รู้ว่าเป็นปุ๋ยปลอม ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท และผู้ใดขาย หรือนำเข้าปุ๋ยเคมีปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสองหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท แต่หากผู้กระทำผิดไม่กระทำโดยไม่รู้ว่าเป็นปุ๋ยเคมีปลอม ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงแปดหมื่นบาท กรณีผู้ผลิตเพื่อการค้า ขาย ปุ๋ยเคมีผิดมาตราฐาน จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสองแสนบาท แต่หากผู้กระทำผิด กระทำโดยไม่รู้ว่าเป็นปุ๋ยเคมีผิดมาตราฐาน จะต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หกหมื่นถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท และผู้ใดขาย หรือนำเข้าปุ๋ยเคมีผิดมาตราฐาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท แต่หากผู้กระทำผิด กระทำโดยไม่รู้ว่าเป็นปุ๋ยเคมีผิดมาตราฐาน จะต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สี่พันถึงสี่หมื่นบาท
ในการนี้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังเน้นยำเรื่องการดำเนินงานแบบบรูณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น เช่น ตำรวจ ทหาร และกรมศุลกากร รวมถึงการทำงานบนพื้นฐานแนวคิด DOA Together “รวมใจเป็นหนึ่ง” การร่วมใจปฏิบัติงานอย่างแข็งขันรวมกันทุกหน่วยงานภายในกรมวิชาการเกษตร
โดยมีด่านตรวจพืชในจังหวัดสงขลาจำนวน 5 แห่ง ประกอบไปด้วย ด่านตราจพืขท่าเรือสงขลา ด่านตรวจพืชท่าอากาศยานฯหาดใหญ่ ด่านตรวจพืชบ้านประกอบ ด่านตรวจพืชปาดังเบซาร์ และด่านตรวจพืชสะเดา เข้าร่วมการรับฟังการมอบนโยบายดังกล่าว
Users Today : 966
Views Today : 2455
Who's Online : 3
