1. Home
  2. »
  3. ประชาสัมพันธ์
  4. »
  5. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ลงพื้นที่ตรวจราชการ จันทบุ…

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ลงพื้นที่ตรวจราชการ จันทบุรี ระยอง ตราด รุดเยี่ยมเกษตรกรชาวสวนลําไยจันทบุรี ติดตามสถานการณ์การส่งออกลําไยไปจีน ส่ังการกรมวิชาการเกษตร ให้จัดทําใบ GAP 2 ภาษา พร้อมส่งออก

ร้อยเอกธรรมนัสพรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นทตี่ิดตามสถานการณ์การ ส่งออกลําไยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีฯ นายพิทวัฒน์ อ่อนทองหลาง ผู้อํานวยการสํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (ผอ.สวพ.6) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่โรงคัดบรรจุลําไย รับฟังปัญหาและการบรรยายสรุป ณ บริษัทนิรันดร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จํากัด หมู่ที่ 2 ตําบลหนองตาคง อําเภอโป่งน้ําร้อน จังหวัดจันทบุรี

สถานการณ์ลําไยจังหวัดจันทบุรีปี 2566/67 พื้นที่ปลูก 268,449 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต 267,189 ไร่ คาด ว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 326,500 ตัน ขณะนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว ประมาณ 10,000 ตัน สํานักงาน เกษตรจังหวัดจันทบุรี เปรียบเทียบการผลิตลําไยกับฤดูกาลที่ผ่านมา พบว่า พื้นที่ปลูก พื้นที่ให้ผล และผลผลิตต่อไร่ มี แนวโน้มลดลง เนื่องจากเกษตรกรในเขตชลประทาน เริ่มมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกลําไยเดิม ไปเป็นทุเรียน ส่วน เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน มีการปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชไร่ เช่น มันสําปะหลัง อีกทั้งราคาปัจจัยการผลิตทาง การเกษตรเช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีกําจัดศัตรูพืช และสารเคมีที่ใช้ในการผลิตลําไย โดยเฉพาะโพแทสเซียมคลอเรต มีการ ขยับราคาสูงขนึ้ ประกอบกับเกษตรกรในพื้นที่มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งจึงทําการพักต้นประมาณ 28,900 ไร่ จึงส่งผลให้ผลผลิตในฤดูกาลนี้ มีปริมาณที่ลดลง

เกษตรกรชาวสวนลําไยภาคตะวันออก ยื่นขอใบรับรอง GAP 318,003 ไร่ สอพ.6 ได้ตรวจประเมินแปลง และให้การรับรองแล้ว 316,441.30 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 99.51 ในฤดูกาลผลิตปี 2566/67 มีโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ลําไย ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออก 109 โรง อยู่ในจังหวัดจันทบุรี 103 โรง จังหวัดสระแก้ว 3 โรง จังหวัดฉะเชิงเทรา ระยอง และชลบุรี จังหวัดละ 1 โรง (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.ย.66)

รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการกรมวิชาการเกษตรคุมเข้มมาตรการส่งออกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการออกใบอนุญาต GAP 2 ภาษา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เพื่อสนับสนุนการส่งออก โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการส่งออกลําไยซึ่งอยู่ในช่วงต้นฤดู การส่งออกลําไยที่มีคุณภาพไปยังต่างประเทศ ก็จะช่วยสร้างความยั่งยืน ให้แก่ธุรกิจการส่งออกลําไยของไทยได้อย่างแน่นอน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการน้อมรับนโยบายของ รมว เกษตรฯ เตรียมจัดทํา ใบรับรอง GAP ให้เป็น 2 ภาษา ในพนื้ ที่ สวพ. เขตที่ 1-8 ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ และ ตนได้สั่งการให้ สวพ. 1-8 ออกหน่วยบริการ GAP เคลื่อนที่ รับสมัคร ต่ออายุ และให้คําแนะนําการใช้ใบรับรอง GAP เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ของเกษตรกร นอกจากนี้กรมวิชาการเกษตรได้ดําเนินการเชิงรุก โดยมอบหมายให้ สวพ.6 จัดประชุมเตรียมความพร้อมก่อนการส่งออกลําไยภาคตะวันออกฤดูกาลผลิตปี 2566/67 เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ.ห้องประชุม สวพ.6 เพื่อชี้แจงนโยบายด้านการส่งออกลําไย การเตรียมความพร้อม โรงคดั บรรจุ เงื่อนไขการแจ้งตรวจศัตรูพืชในลําไย เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ ผู้เกี่ยวข้องรับทราบสถานการณ์ การผลิต และส่งออกลําไยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุส่งออกลําไยในพื้นที่ภาคตะวันออกเข้าร่วมประชุม

อธิบดีฯ กําชับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช ตรวจติดตาม เฝ้าระวัง และควบคุมการส่งออกให้เป็นไปใน ทิศทางเดียวกัน พร้อมกับสร้างการรับรู้ และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องให้แก่เกษตรกรตั้งแต่ในสวน ในส่วนของ ผู้ประกอบการส่งออกลําไย สวพ.6 ได้จัดฝึกอบรม จํานวน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตร“หลักปฏิบัติสําหรับ กระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์” (มกษ.1004-2557) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ณ ห้อง ประชุม สวพ.6 ซึ่งมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม 100 ราย เพื่อเพิ่มทักษะ และทบทวนความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม คุณภาพ กระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สร้างความตระหนักในเรื่องของปัญหาการแจ้งเตือน การตรวจพบศัตรูพืชกักกัน และการตรวจพบปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินค่ามาตรฐานในลําไยส่งออก และ หลักสูตร “การตรวจสอบศัตรูพืชสําหรับสายเก็บและโรงคัดบรรจุลําไย”เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 มีผู้เข้ารับการ ฝึกอบรม 200 ราย ณ ห้องประชุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสอยดาว ตําบลปะตง อําเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เพื่อ เพิ่มทักษะ ทบทวนความรู้ให้กับสายเก็บ และผู้ควบคุมศัตรูพืชกักกัน ของโรงคัดบรรจุลําไยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดสระแก้ว ใหม้ ีความรู้ด้านศัตรูพืชกักกัน สามารถจําแนกและกําจัดศัตรูพืชไม่ให้ติดไปกับสินค้า รวมถึง ปฏิบัติตามข้อกําหนดของประเทศคู่ค้าได้อย่างถูกต้อง ลดปัญหาการส่งออกลําไยด้อยคุณภาพไปต่างประเทศ และป้องกันมิให้มีการแจ้งเตือนจากประเทศคู่ค้าอีกต่อไป

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ติดตามโครงการจัดที่ดินทํากินแปลงเกษตร เกื้อกูลทับปะตีโมเดล หมู่ที่ 8 ตําบลโป่งน้ําร้อน อําเภอโป่งน้ําร้อน จังหวัดจันทบุรี งบประมาณรวมทั้งสิ้น 18 ล้าน บาท ซึ่งเป็นโครงการที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริหารจัดการน้ําเพื่อการเกษตรและถนน

#กรมวิชาการเกษตร #DOATOGETHER

#50 ปี กรมวิชาการเกษตร

Related
แชท
Skip to content