นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและชาวไทยที่เดินทางเข้าประเทศกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยงที่เดินทางกลับจาก เกาหลี ญี่ปุ่น ที่นิยมซื้อผลไม้สด เช่น พลับ องุ่น ที่มีราคาถูกกว่าเมืองไทย เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก กรมวิชาการเกษตรจึงขอประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ทราบว่าการนำเข้าผลไม้สดเข้ามายังราชอาณาจักรไทย โดยไม่สำแดงใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านเข้าประเทศไทยในทุกช่องทาง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติ กักพืช พ.ศ. 2507 และ แก้ไขเพิ่มเติมมีโทษทั้งจำและปรับ
ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับเข้าประเทศระวังในการกระทำดังกล่าวที่อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิด ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงยึดสินค้าเพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายกักพืช โดยกรมวิชาการเกษตรจะประสานกับทางการท่าอากาศยานให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่าจากการสอบถามนักท่องเที่ยวพบว่าซื้อตามคำแนะนำของไกด์นำเที่ยว จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังไม่กระทำการดังกล่าว เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเงินกับสินค้ากลุ่มนี้ ทั้งนี้กรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 21 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งปัจจุบันด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการตรวจยึดผักและผลไม้สดที่นักท่องเที่ยวนำติตตัวเข้ามาที่อาคารโดยสารได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและปล่อยตัวแต่ยึดสิ่งของไว้ และทำการแช่เย็นหลังจากทำการตรวจสอบศัตรูพืชเบื้องต้นเพื่อรอส่งทำลาย ด้วยวิธีการเผาด้วยอุณหภูมิสูง เป็นการป้องกันความเสี่ยงศัตรูพืช เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม และระบบนิเวศของประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พร้อมกับได้สั่งการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรจัดเตรียมจุดทิ้งสิ่งต้องห้ามในบริเวณสนามบินให้ชัดเจนหลายจุดให้นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย เพื่อที่นักท่องเทียวจะไม่ทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
**********************************