1. Home
  2. »
  3. ประชาสัมพันธ์
  4. »
  5. กรมวิชาการเกษตรขับเคลื่อนองค์ความรู้ การผลิตลิ้นจี…

กรมวิชาการเกษตรขับเคลื่อนองค์ความรู้ การผลิตลิ้นจี่คุณภาพ พันธุ์นครพนม 1 สู่พืชเศรษฐกิจและสินค้า GI เปิดตัวโมเดลเกษตรผสมผสานในสวนลิ้นจี่นครพนม 1 ไร่ 3 แสนบาท

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ลิ้นจี่พันธุ์นครพนม1 (นพ.1) เป็นผลงานวิจัยการคัดเลือกพันธุ์ไม้ผลท้องถิ่น โดยสถานีทดลองพืชสวนนครพนม เริ่มเผยแพร่พันธุ์ในปี 2535 และมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาการผลิตอย่างต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จและเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม และเริ่มมีการขยายพื้นที่ปลูกไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกว่า 2,969 ไร่ ผลผลิตรวม 1,500 ตันต่อปี ลิ้นจี่ นพ.1 มีขนาดผลใหญ่ รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีรสฝาดปน เนื้อหนา ความหวาน 18 – 20 องศาบริกซ์ ให้ผลผลิต 65 – 180 กิโลกรัมต่อต้น ที่อายุต้น 8 – 10 ปี เก็บเกี่ยวผลผลิต ช่วงเดือนเมษายน เป็นลิ้นจี่กลุ่มพันธุ์เบา มีข้อได้เปรียบคือ ให้ผลผลิตเร็วซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตมีน้อยทำให้ขายได้ราคาสูง การตลาด เกษตรกรขายให้กับพ่อค้าในพื้นที่และต่างจังหวัด ตลาดริมถนน ห้างสรรพสินค้า เช่น ทอป แมคโคร ตลาดค้าส่งได้แก่ตลาดไท และการขายทางออนไลน์ ไม่พบปัญหาด้านราคาและการตลาด ปัญหาของการปลูกลิ้นจี่ในจังหวัดนครพนม คือ การออกดอกติดผลและปริมาณผลผลิตไม่สม่ำเสมอเนื่องจากจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและความหนาวเย็นที่ไม่ต่อเนื่อง
ปัญหาแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนเจาะขั้วผลแมลงวันผลไม้ ปัญหาด้านคุณภาพ เช่น เนื้อบางเมล็ดโต ผลแตก ผลสดเก็บรักษาได้ไม่นานเปลือกผลแห้งเร็ว ซึ่งกรมวิชาการเกษตร โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครพนม มีการศึกษาวิจัยในการแก้ปัญหาและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ขับเคลื่อนการทำงานแบบบูรณการในพื้นที่กับหน่วยงานภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนอกกระทรวงฯ จัดทำมาตรฐานผลลิ้นจี่นครพนม1 สำหรับการบริโภคสด ต้องเป็นผลสดทั้งผลและมีขั้วผลติดอยู่ มีรูปทรงสีและรสชาติปกติตรงตามพันธุ์ ไม่มีรอยช้ำหรือตำหนิที่เห็นเด่นชัดและไม่เน่าเสีย สะอาดปราศจากสิ่งแปลกปลอม ปลอดจากศัตรูพืชและความเสียหายอันเนื่องมาจากศัตรูพืช ที่ตรวจสอบด้วยสายตา ปลอดจากความชื้นที่ผิดปกติจากภายนอก ปลอดจากความเสียหายเนื่องจากอุณหภูมิต่ำ ไม่มีกลิ่นและรสชาติผิดปกติจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก
การแบ่งชั้นคุณภาพ แบ่งเป็น 3 ชั้นคุณภาพ ได้แก่ ชั้นพิเศษ (AA) ชั้นหนึ่ง (A) และชั้นสอง (B) โดยชั้นพิเศษสีผิวผลแดงสม่ำเสมอไม่มีสีเขียวปน จำนวนผลน้อยกว่า 35 ผล/กิโลกรัม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลไม่น้อยกว่า 38 มิลลิเมตร ชั้นหนึ่ง ตำหนิผิวโดยรวมต่อผลต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 0.25 ตารางเซนติเมตร สีผิวผลแดงสม่ำเสมอไม่มีสีเขียวปน จำนวนผล 35-40 ผล/กิโลกรัม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลไม่น้อยกว่า 30 มิลลิเมตร และ ชั้นสอง ตำหนิผิวโดยรวมต่อผลต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 0.5 ตารางเซนติเมตร สีผิวผลแดงสม่ำเสมอไม่มีสีเขียวปน จำนวนผล 35-45 ผล/กิโลกรัม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลไม่น้อยกว่า 30 มิลลิเมตร
การยกระดับสู่มาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย (GAP) แหล่งผลิตลิ้นจี่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ในปี 2565 จำนวน 69 แปลง พื้นที่ 125 ไร่ ปริมาณผลผลิตประมาณ 169 ตัน มูลค่าผลผลิตประมาณ 13.5 ล้านบาท และมีการรวมกลุ่มตามระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ และได้เป็นสินค้าเกษตร GI ตัวแรกของจังหวัดนครพนม ที่ได้รับเครื่องหมายจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็นมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา
นางรัศมี อุทาวงษ์ ประธานกลุ่มแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นพ.1 เปิดเผยว่า ผลผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ก่อนที่จะจำหน่ายจะมีการคัดเกรด ขนาดผลและคุณภาพ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งหากสนใจสามารถเข้าเยี่ยมชม ชิม ลิ้นจี่ นพ.1 สดๆ จากสวนได้ โดยทางสวนจะเปิดให้เยี่ยมชมและชิมผลผลิตกันภายในสวน นอกจากนี้ทางสวนหรือกลุ่มสมาชิกแปลงใหญ่ ยังมีกิ่งพันธุ์ลิ้นจี่ นพ.1 สายพันธุ์แท้ไว้จำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท ไปจนถึงหลายร้อยบาท
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า ได้มีการพัฒนาโมเดลนครพนม 1 ไร่ 3 แสนบาท ลิ้นจี่นครพนม 1 ไร่ มี 25 ต้น ผลผลิตต้นละ 100 กิโลกรัม ขายกิโลละ 100 บาท 1 ไร่สร้างรายได้ 250,000 บาทต่อไร่ต่อปี ในระหว่างที่มีการตัดแต่งกิ่งลิ่นจี่ เกษตรกรจะทำกิ่งพันธุ์จำหน่าย 1 ไร่สร้างรายได้ 4,000 บาทต่อไร่ต่อปี นอกจากนี้ในช่วงผสมลิ้นจี่ผสมเกสร จะมีการเอาผึ้งมาเลี้ยงในสวน เพื่อให้ผึ้งช่วยผสมเกสร ในพื้นที่ 1 ไร่จะเลี้ยงผึ้ง 34 ลัง เฉลี่ยให้ผลผลิตน้ำผึ้ง 50 ลิตรต่อไร่ สร้างรายได้ประมาณ 17,500 บาทต่อไร่ต่อปี นอกจากนี้ ในระยะที่ลิ้นจี่ยังไม่ให้ผลผลิต มีการปลูกพืชแซมในสวนลิ้นจี่ เช่น กล้วย ข้าวโพดหวาน และในระยะลิ้นจี่ที่ให้ผลผลิตแล้ว แนะนำให้ปลูกพืชผักอื่นๆ ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 30,000 บาทต่อไร่ต่อปี การทำสวนลิ้นจี่แบบผสมผสาน ควบคู่กับการปลูกพืช และ การเลี้ยงผึ้งเสริมรายได้นอกจากจะสร้างความหลากหลายให้แก่สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสร้างความยั่งยืนในอาชีพเกษตรกรรมเป็นมรดกมีค่าส่งต่อให้ลูกหลานรุ่นต่อไป
#กรมวิชาการเกษตร #DOATOGETHER
#50ปีกรมวิชาการเกษตร
Related
แชท
Skip to content