1. Home
  2. »
  3. ประชาสัมพันธ์
  4. »
  5. โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้าจั…

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้าจังหวัดพะเยา กาแฟหนองห้าสร้างคนสร้างป่าพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  กรมวิชาการเกษตรสนองพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในพื้นที่โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริบ้านหนองห้าจังหวัดพะเยาโดยดำเนินโครงการกาแฟหนองห้าสร้างคนสร้างป่าพัฒนาอาชีพอย่างยั่งยืนเพื่อส่งเสริมอาชีพการปลูกกาแฟ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้การทำการเกษตรที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สร้างแปลงต้นแบบในการเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตและคุณภาพ รวมถึงวิธีการเก็บเกี่ยว และการจัดการทั้งก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว  โดยก่อนจะเริ่มจัดตั้งโครงการปัญหาที่พบในพื้นที่บ้านหนองห้า ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา กรมวิชาการเกษตรเข้ามาดำเนินโครงการในพื้นที่พบว่าดินในพื้นที่มีสภาพเป็นกรด แหล่งน้ำไม่เพียงพอ ราษฎรในพื้นที่ ยังขาดทักษะในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ขาดพืชพันธุ์ดีที่มีศักยภาพ 

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรแพร่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1  จ.เชียงใหม่ ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่ดังกล่าว จากการสำรวจพบว่าพื้นที่เหมาะแก่การปลูกกาแฟอะราบิกา มีศักยภาพและตลาดมีความต้องการสูง จึงได้นำเทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตร พร้อมดำเนินการฝึกอบรม หลักสูตรการผลิตกาแฟอะราบิกาที่ถูกต้องและเหมาะสม ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เช่น การผลิตต้นพันธุ์ การปลูกและดูแลรักษา การป้องกันกำจัดโรคและแมลงที่สำคัญ การเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้ผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแปลงต้นแบบเพื่อทดสอบการปลูกพืชแบบผสมผสาน คือการปลูก มะคาเดเมีย พีชพลับ ปลูกร่วมกับกาแฟอะราบิกา

“โครงการดังกล่าวได้พัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรให้ดีขึ้น ให้มีอาชีพและที่ทำกินเป็นหลักแหล่ง โดยไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนเพื่อให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนในลักษณะบ้านเล็กในป่าใหญ่ โดยราษฎรเป็นผู้รักษาป่า”คือพระราชดำริ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  โดยหลังจากกรมวิชาการเกษตรดำเนินสนองพระราชดำริ ส่งผลให้ในปี 2565 มีพื้นที่ปลูกกาแฟอะราบิกาแล้วกว่า 130 ไร่ ผลผลิตกาแฟกะลากว่า 14,734 กิโลกรัม รวมเป็นมูลค่า 2,257,520 ต่อปี ทำให้เกษตรกรที่ได้รับบริการทางวิชาการเกษตรมีความรู้ที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นและนำมาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองได้รวมทั้งสามารถดูแลผลผลิตให้มีคุณภาพ ลดต้นทุนการผลิตและมีรายได้เพิ่มขึ้น เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้และมีอาชีพที่ยั่งยืน”อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  กล่าว 

Related
แชท
Skip to content