12-21-2015, 03:44 PM
การใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีกับข้าวโพด 3 พันธุ์
สมควร คล้องช้าง, สมฤทัย ตันเจริญ, ชลวุฒิ ละเอียด และสาธิต อารีรักษ์
กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา สำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์
สมควร คล้องช้าง, สมฤทัย ตันเจริญ, ชลวุฒิ ละเอียด และสาธิต อารีรักษ์
กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา สำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์
ศึกษาถึงผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีกับข้าวโพดลูกผสม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีให้เหมาะสมกับข้าวโพด ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมี และหาเทคโนโลยีการจัดการดินและปุ๋ยแบบผสมผสานที่เหมาะสมกับพืชเฉพาะพื้นที่ ในปี พ.ศ. 2549-2551 วางแผนการทดลองแบบ Split plot design จำนวน 3 ซ้ำ ปัจจัยหลักประกอบด้วยข้าวโพดพันธุ์ลูกผสม 3 พันธุ์ คือ นครสวรรค์ 2 (NS2), นครสวรรค์ 3 (NS3) และ NSX042022 ปัจจัยรองประกอบด้วย 7 กรรมวิธี คือ ไม่ใส่ปุ๋ย (control), ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1, มูลไก่ อัตรา 1 ตัน/ไร่, ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี, ปุ๋ยชีวภาพ+ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี, ปุ๋ย 10-5-5 และ 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ในปี 2552 เปลี่ยนกรรมวิธีการทดลองจากกรรมวิธีที่ 2 และ 6 เป็นกรรมวิธีลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนลง 15 และ 20 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1 บนดินเหนียวสีแดงที่มีค่า pH 5.3-7.1 ปริมาณอินทรียวัตถุ 1.45-1.97 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ 12.3-74.8 และ 72.64-313.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ
ผลการศึกษาในปี 2549-2551 ซึ่งเป็นการปลูกซ้ำที่เดิมพบว่า ข้าวโพดพันธุ์ลูกผสม NSX042022 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 780 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับพันธุ์นครสวรรค์ 3 และนครสวรรค์ 2 ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 730 และ 696 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และการใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ให้ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ยสูงสุด 1,077 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาได้แก่ การใส่ปุ๋ย 10-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 874 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่วัสดุอินทรีย์มูลไก่อัตรา 1 ตันต่อไร่ ปุ๋ยชีวภาพร่วมกับปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี ปุ๋ยผสมอินทรย์เคมี การไม่ใส่ปุ๋ยและปุ๋ยชีวภาพให้ผลผลิตเฉลี่ย 745, 733, 709, 505 และ 503 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์ข้าวโพดกับการใส่ปุ๋ยวิธีต่างๆ
ผลการศึกษาปี 2552-2553 ทำการทดลองปลูกซ้ำที่เดิมเป็นปีที่ 4-5 พบว่า ข้าวโพดพันธุ์ลูกผสมนครสวรรค์ 3 (NS3) ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 988 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับพันธุ์ NSX042022 และพันธุ์นครสวรรค์ 2 (NS2) ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 981 และ 959 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ การใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ให้ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ยสูงสุด 1,104 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาได้แก่ การใส่ปุ๋ย 17-10-10 + ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1 ที่ให้ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ย 1,083 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการใส่ปุ๋ย 16-10-10 + ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1, ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1, ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี และแกลบมูลไก่ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,047 1,043 1,027 และ 992 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ การไม่ใส่ปุ๋ย (control) ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่ำสุด 560 กิโลกรัมต่อไร่ และไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์ข้าวโพดกับการใส่ปุ๋ยวิธีต่างๆ