08-03-2016, 02:26 PM
การพัฒนาวิธีการวิเคราะห์สารพิษตกค้าง กลุ่ม dithiocarbamate ในมะม่วง
จินตนา ภู่มงกุฎชัย และพนิดา ไชยยันต์บูรณ์
จินตนา ภู่มงกุฎชัย และพนิดา ไชยยันต์บูรณ์
dithiocarbamate ใช้เป็นสารกำจัดโรคพืช (fungicide) ส่วนมากมีโลหะเป็นองค์ประกอบ เช่น mancozeb maneb เป็นต้น การวิเคราะห์หาปริมาณสารพิษตกค้างของสารในรูปของ CS2 มีการพัฒนามาหลายครั้งสำหรับมาตรฐานที่ใช้ระหว่างประเทศได้กำหนดค่า CS2 ที่ได้จากการ digest ด้วยกรด วิธีที่ใช้โดยทั่วไปใช้Stannous Chloride (SnCl2) กับกรด hydrochloric (HCl) การเลือกใช้เครื่องมือของการตรวจวิเคราะห์ต้องทดสอบและเลือกชนิดให้เหมาะสมต่อห้องปฏิบัติการ โดยใช้ GC และ Column ที่มีความหนาของ phase 4 umของ HP1 ซึ่งเป็น column ที่หนาและทดสอบปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของตัวอย่าง การปั่นปกติที่ใช้ทั่วไป การใช้สารมาตรฐานที่จะทดสอบกับตัวอย่างสามารถใช้ได้ทั้ง CS2 และ mancozeb เมื่อเลือกใช้ CS2 ที่ได้ที่ความเข้มข้นต่ำ (0.5 - 1 mg/kg) จะให้ผลการวิเคราะห์ที่ดีกว่า นอกจากนี้การวิเคราะห์ด้วย GC สามารถเลือกใช้ได้ทั้งการวิเคราะห์ในรูปแก๊สโดยฉีด (inject) CS2 เข้าเครื่อง GC โดยตรง หรือเรียกเทคนิค headspace และการ inject GC แบบที่ใช้ทั่วไปต้องเติม isooctane ก่อนนำตัวอย่างไปต้มและวิเคราะห์ CS2 ในชั้น isooctane ซึ่งการ inject นี้ใช้ auto injector ส่วนการใช้ mancozeb จะเหมาะสมที่ความเข้มข้น 2 - 5 mg/kg ได้เลือกวิธีการที่คาดว่าจะเหมาะสมทำการทดสอบในตัวอย่างมะม่วงด้วยการใช้มะม่วงที่ผ่านการปั่นด้วย food processor และเติม mancozeb ผ่านขั้นตอนการสกัดและนำไปวิเคราะห์ด้วย GC/FPD sulfur mode ใช้ autoinjector เป็นตัวฉีดสารเข้าเครื่อง สุดท้ายทดสอบความสามารถที่เครื่อง GC จะสามารถ detect ปริมาณ CS2 ได้ต่ำสุดด้วยการใช้ matrix-matched standard solution โดยการเตรียมสารละลายของ CS2 ด้วย isooctane ที่ผ่านขั้นตอนการสกัดแล้ว วิธีการนี้สามารถวิเคราะห์ได้ต่ำสุดที่ 0.001 mg/kg