08-02-2016, 04:10 PM
การเปรียบเทียบผลผลิตมันสำปะหลังในชุดดินที่สำคัญ 10 ชุดดิน
อัจฉรา ลิ่มศิลา, วัลลีย์ อมรพล, พินิจ กัลยาศิลปิน, วสันต์ วรรณจักร, อภิชาต เมืองซอง และสุชาติ คำอ่อน
ดินชุดกำแพงแสน (Ks) ที่จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 50 กก./ไร่ F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 30 กก./ไร่ และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำ ให้ผลผลิต 6.92 - 7.47 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 6.91 - 7.69 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด คือ พันธุ์ CMR35-2-196
อัจฉรา ลิ่มศิลา, วัลลีย์ อมรพล, พินิจ กัลยาศิลปิน, วสันต์ วรรณจักร, อภิชาต เมืองซอง และสุชาติ คำอ่อน
ทำการเปรียบเทียบผลผลิตและเปอร์เซ็นต์แป้งของมันสำปะหลัง 3 พันธุ์ กับพันธุ์ที่เกษตรกรปลูก รวมเป็น 4 พันธุ์ ในพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังในจังหวัดต่างๆ 10 จังหวัด (9 ชุดดิน) ได้แก่ ระยอง ปราจีนบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด เลย (2 แปลง) นครสวรรค์ และสุพรรณบุรี ในช่วงต้นฤดูฝน ปี 2550 เก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่ออายุประมาณ 1 ปี วางแผนการทดลอง แบบ Split plot in RCB ทำ 2 - 3 ซ้ำ Main plot เป็นการใช้ปุ๋ย 2 - 3 ระดับ ได้แก่ F1) ปุ๋ยตามอัตราที่เกษตรกรแต่ละท้องที่ใช้ F2) ปุ๋ย N-P-K ตามค่าวิเคราะห์ดิน F3) ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์+ให้น้ำเมื่อฝนทิ้งช่วงนานเกิน 2 สัปดาห์ Sub plot เป็นพันธุ์มันสำปะหลัง 4 พันธุ์ ได้แก่ 1) พันธุ์ที่เกษตรกรในแต่ละท้องที่นิยมปลูก ได้แก่ ระยอง 5 ระยอง 72 เกษตรศาสตร์ 50 หรือ ห้วยบง 60 2) พันธุ์ระยอง 7 3) พันธุ์ระยอง 9 4) พันธุ์ CMR35-22-196 ขนาดแปลงทดลองยอ่ย 4.8 x 6.4 เมตร ปลกู 6 แถว แถวละ 8 ต้น ระยะปลูก 80 x 80 เซนติเมตร เก็บเกี่ยว 4 แถวกลาง แถวละ 6 ต้น พื้นที่เก็บเกี่ยว 3.2 x 4.8 เมตร ผลการทดลองในดินชุดต่างๆ มีดังนี้
ดินชุดสัตหีบ (Sh) ที่จังหวัดระยองพบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 50 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 50 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำ ให้ผลผลิต 5.39-5.52 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 4.83-5.84 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติแต่พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุดคือ พันธุ์ระยอง 9
ดินชุดโคราช (Kt) ที่จังหวัดปราจีนบุรีพบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 50 กก./ไร่ F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 50 กก./ไร่ และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำ ให้ผลผลิต 6.38-6.53 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 5.76-7.13 ตัน/ไร่ แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด คือ พันธุ์ระยอง 5
ดินชุดน้ำพอง (Ng) ที่จังหวัดกาฬสินธุ์พบว่า ปุ๋ยอัตราที่ 1 และ 2 ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 50 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 1 เดือน และ 3.5 เดือน F2 คือ ครั้งที่ 1 ใส่ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 50 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ย 46-0-0 16.1 กก./ไร่ และ 0-0-60 9.5 กก./ไร่ เมื่ออายุ 2 เดือน ให้ผลผลิต 2.58 และ 3.50 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 1.92 - 4.11 ตัน/ไร่ แตกต่างทางสถิติพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด คือ พันธุ์ระยอง 9
ดินชุดสีคิ้ว (Skw) ที่จังหวัดนครราชสีมาพบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 50 กก./ไร่ เมื่ออายุ 6 เดือน F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 40 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำ ให้ผลผลิต 3.20 - 4.52 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 2.84 - 4.53ตัน/ไร่ แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ระยอง 9 ให้ผลผลิตสูงที่สุด
ดินชุดสตึก-ตื้น (Suk-d) ที่จังหวัดขอนแก่น พบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 16-8-8 50 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน F2 คือ ครั้งที่ 1 ใส่ ปุ๋ยสูต ร 15-7-18 57.1 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน ครั้งที่ 2 ใส่ปุ๋ย 46-0-0 16.1 กก./ไร่ และ 0-0-60 9.5 กก./ไร่ เมื่ออายุ 2 เดือน ให้ผลผลิต 5.38-7.23 ตัน/ไร่ และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำแม้จะไม่แตกต่างทางสถิติ แต่การให้อัตราที่ 3 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 7.23 ตัน/ไร่ ซึ่งสูงกว่าการให้ปุ๋ยอัตราที่ 1 และ 2 มาก พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 5.41-6.94 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด คือ พันธุ์ระยอง 72
ดินชุดโคราช (Kt) ที่จังหวัดร้อยเอ็ดพบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 100 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง เมื่ออายุ 1 เดือน และ 3 เดือน F2 คือ ใส่ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 2 ครั้ง ครั้งละ 53.4 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน และ 3 เดือน และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำ ให้ผลผลิต 5.69 - 6.05 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 5.37 - 6.45 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ระยอง 7 และระยอง 9 ให้ผลผลิตสูงใกล้เคียงกัน คือ 6.45 และ 6.42 ตัน/ไร่
ดินชุดวาริน (Wn) ที่จังหวัดมหาสารคามพบว่า ปุ๋ยอัตราที่ 1 และ 2 ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 50 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน F2 คือ ใส่ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 2 ครั้ง ครั้งละ 53.4 กก./ไร่ เมื่ออายุ 1 เดือน และ 3 เดือนให้ผลผลิต 6.12 และ 5.80 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 4.92-6.57 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ แต่พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 และ CMR35-22-196 ที่ให้ผลผลิตสูงใกล้เคียงกัน คือ 6.57 และ 6.54 ตัน/ไร่ แปลงนี้เกษตรกรใส่ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด อัตรา 300 กก./ไร่ หลังจากที่เก็บดินมาวิเคราะห์ จึงทำให้อัตราปุ๋ยที่ใช้สูงเกินไป มีผลทำให้ต้นมันสำปะหลังต้นสูงใหญ่เกินไปและต้นล้มเสียหาย
ดินชุดวังไฮ (Wi) ที่จังหวัดเลย (แปลงที่ 2) พบว่า ปุ๋ยอัตราที่ 1 และ 2 ปุ๋ยอัตราที่ 1 และ 2 ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 15 กก./ไร่ F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 25 กก./ไร่ ให้ผลผลิต 6.12 และ 6.47 ตัน/ไร่ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 5.66 - 6.87 ตัน/ไร่ แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ CMR35-22-196 ให้ผลผลิตสูงที่สุด
ดินชุดตาคลี (Tk) ที่จังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ปุ๋ยอัตราที่ 1 และ 2 ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 30 กก./ไร่ F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 20 กก./ไร่ ให้ผลผลิต 6.19 และ 4.74 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 2.89 - 7.60 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ แต่พันธุ์ CMR35-22-196 ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์อื่นๆ มากและพบว่า พันธุ์ระยอง 9 ไม่ทนสภาพดินที่มี pH สูง และมีอนุภาคของหินปูนปะปนในปริมาณมากของดินชุดนี้ได้ทำให้ต้นเหลืองแคระแกร็น และถึงตายได้
ดินชุดกำแพงแสน (Ks) ที่จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า ปุ๋ย 3 อัตรา ได้แก่ F1 คือ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 50 กก./ไร่ F2 คือ ปุ๋ยสูตร 15-7-18 30 กก./ไร่ และ F3 คือ ปุ๋ย F2+น้ำ ให้ผลผลิต 6.92 - 7.47 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ 4 พันธุ์ให้ผลผลิต 6.91 - 7.69 ตัน/ไร่ ไม่แตกต่างทางสถิติ พันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงที่สุด คือ พันธุ์ CMR35-2-196