โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
#1
โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ธีรชาต วิชิตชลชัย, สุรกิตติ ศรีกุล, ไพบูรณ์ เปรียบยิ่ง, ฐปนีย์ ทองบุญ, สุธีรา ถาวรรัตน์, อาพร คงอิสโร, พงษ์มานิตย์ ไทยแท้, วิริยา ประจิมพันธุ์, จินตนาพร โคตรสมบัติ และศรีวิลาศ ประเสริฐ
สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7

          พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเห็นความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด และมีการรุกตัวของน้ำทะเลเข้าไปในแม่น้ำปากพนังในฤดูแล้งทำให้เกิดสภาพน้ำเค็มถึงปีละ 5-6 เดือน รวมทั้งการเกิดอุทกภัยในฤดูฝน ทำให้ราษฎรประกอบอาชีพเกษตรกรรมไม่ได้ จึงได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหา และพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เพื่อช่วยเหลือราษฎรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และช่วยพลิกฟื้นความอุดมสมบูรณ์ให้กลับคืนสู่ลุ่มน้ำปากพนัง

          กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 เริ่มเข้าดำเนินงานตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา โดยการนำผลงานวิจัยของกรมวิชาการเกษตรเข้าไปทดสอบ ปรับใช้ และขยายผลในพื้นที่เกษตรกร ซึ่งมีการสำรวจ และวิเคราะห์พื้นที่ และสรุปกิจกรรมดำเนินการเพื่อพัฒนาพื้นที่ ดังนี้
1. การทดสอบความเป็นไปได้ในการปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง
2. การปรับเปลี่ยนอาชีพจากการเลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืดมาปลูกปาล์มน้ำมัน
3. ทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการปรับปรุงสภาพดินนากุ้งร้างให้เหมาะสมต่อการปลูกปาล์มน้ำมัน
4. ทดสอบการปลูกพืชแซมในสวนปาล์มน้ำมันปลูกใหม่
5. การทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม
6. การฝึกอบรม หลักสูตรเทคโนโลยี การจัดการสวนปาล์มน้ำมัน และส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม

          การทดสอบความเป็นไปได้ในการปลูกปาล์มน้ำมันในแปลงเกษตรกร 6 แปลง 156 ไร่ พบว่า ปาล์มน้ำมันสามารถเจริญเติบโต และให้ผลผลิตเฉลี่ยทั้ง 156 ไร่ อายุ 6-13 ปี 3.25 ตันต่อไร่ต่อปี ทำรายได้เป็นที่พอใจของเกษตรกร และได้ขยายผลไปสู่โครงการปรับเปลี่ยนอาชีพจากการเลี้ยงกุ้งในเขตน้ำจืดมาปลูกปาล์มน้ำมัน ในปี 2547 พื้นที่กว่า 8,000 ไร่ รวมทั้งการทดสอบการปลูกพืชแซมในสวนปาล์มน้ำมันปลูกใหม่พบว่า พืชที่เหมาะสมเป็นพืชแซมสำหรับพื้นที่ คือ ฟักทอง แตงโม พริก บัวบก และข้าวโพดหวาน การทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการปรับปรุงสภาพดินนากุ้งร้างให้เหมาะสมต่อการปลูกปาล์มน้ำมัน 9 ราย 120 ไร่ พบว่าการปรับปรุงบำรุงดินนากุ้งร้างโดยการเพิ่มอินทรียวัตถุ และการจัดการสวนที่ถูกต้อง ทำให้ปาล์มน้ำมันเจริญเติบโต และให้ผลผลิตสูงเฉลี่ยอายุ 6 ปี 3.40 ตันต่อไร่ต่อปี นอกจากนี้ได้ทำการทดสอบและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามในแปลงเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรนำไปปรับใช้ในสวนของตนเอง ให้ได้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพดี

        การดำเนินการฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยี หลักสูตรเทคโนโลยีการจัดการสวนปาล์มน้ำมัน และส้มโอพันธุ์ทับทิมสยาม เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการสวนปาล์มน้้ามันให้แก่เกษตรกรทุกปี ซึ่งมีเกษตรกรเข้ารับการฝึกอบรม ประมาณ 500 รายต่อปี รวมทั้งยังได้มีการจัดทำแปลงเรียนรู้ และแปลงต้นแบบการผลิตปาล์มน้ำมันที่ถูกต้องให้เกษตรกรในพื้นที่ จำนวน 11 แปลง กระจายครอบคลุมพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่

          จากผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง (15 ปี) ส่งผลให้เกษตรกรมีการปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปี 2539 ที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันเพียง 200 ไร่ ขยายพื้นที่ปลูกไปเป็น 213,000 ไร่ ในปี 2555 ซึ่งทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตปาล์มน้ำมันเข้าสู่พื้นที่อย่างน้อยประมาณ 2,150 ล้านบาทต่อปี และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีอาชีพทำการเกษตรกรรมอย่างมั่นคงและยั่งยืน


ไฟล์แนบ
.pdf   2255_2555.pdf (ขนาด: 1.22 MB / ดาวน์โหลด: 1,952)
ตอบกลับ




ผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้: 2 ผู้เยี่ยมชม