การเปรียบเทียบมาตรฐาน : พันธุ์ฝ้ายเส้นใยสี (ชุดที่ 1)
#1
การเปรียบเทียบมาตรฐาน : พันธุ์ฝ้ายเส้นใยสี (ชุดที่ 1)
ปริญญา สีบุญเรือง, เพ็ญรัตน์ เทียมเพ็ง, สมใจ โค้วสุรัตน, พรพรรณ สุทธิแย้ม, ปรีชา แสงโสดา และพิกุล ซุนพุ่ม
ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์, ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์, ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี, ศูนย์วิจัยพืชไร่เชียงใหม่, ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเลย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรมุกดาหาร

          การใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลงในการผลิตฝ้ายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม แต่การใช้พันธุ์ฝ้าย (Gossypium hirsutum) ที่มีเส้นใยสีต่างๆ และมีลักษณะใบที่มีขน อีกทั้งฝ้ายพันธุ์พื้นเมือง (Gossypium arborium) จะสามารถทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลงปากดูดโดยเฉพาะเพลี้ยจักจั่น และหนอนเจาะสมอฝ้ายเข้าทำลายน้อย นอกจากความทนทานต่อแมลงแล้ว พันธุ์ฝ้ายเหล่านั้นควรมีศักยภาพในการให้ผลผลิตอีกด้วย จึงจะสามารถใช้เป็นทางเลือกในการลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลง ดังนั้นในปี 2556 จึงได้นำสายพันธุ์ฝ้ายที่มีลักษณะดังกล่าว ที่ได้รับการคัดเลือกจากขั้นตอนการเปรียบเทียบเบื้องต้นพันธุ์จำนวน 11 สายพันธุ์ มาทำการปลูกโดยมีพันธุ์ ตากฟ้า3 และตากฟ้า84-4 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ รวม 13 สายพันธุ์/พันธุ์ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุบลราชธานี เชียงใหม่ และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเลย มุกดาหาร เพื่อคัดเลือกให้ได้สายพันธุ์ฝ้าย ที่ให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพเส้นใยดี สำหรับการผลิตในสภาพลดการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูฝ้าย โดยวางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 3 ซ้ำ สายพันธุ์ละ 4 แถวต่อแปลงย่อย แถวยาว 12 เมตร และมีระยะปลูก 1.50 x 0.50 เมตร ผลการทดลองจาก 3 สถานที่ (ยกเว้น ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ อุบลราชธานี และเชียงใหม่ พบว่าลักษณะผลผลิตมีความแตกต่างทางพันธุ์กรรมในแต่ละสภาพแวดล้อม ระหว่างสภาพแวดล้อม ตลอดจนมีปฏิกิริยาสัมพันธระหว่างพันธุ์กรรมกับสภาพแวดล้อม โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรมุกดาหาร ให้ผลผลิตเฉลี่ยของฝ้ายทุกสายพันธุ์สูงที่สุด คือ 131 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาคือ ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเลย ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 115 และ 87 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ของความแปรปรวนอยู่ในช่วง 13.88 - 25.53% เมื่อพิจารณาผลผลิตจาก 3 สภาพแวดล้อม พบว่ามีเพียง 2 สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตมากกว่าพันธุ์ตรวจสอบตากฟ้า84-4 (125 กิโลกรัมต่อไร่) ร้อยละ 6 - 12 ได้แก่ สายพันธุ์ V1 และ P12Nan37M5 ที่ให้ ผลผลิต 141 และ 133 กิโลกรัมต่อไร่ตามลำดับ และมี 6 สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตมากกว่าพันธุ์ตรวจสอบ ตากฟ้า3 (106 กิโลกรัมต่อไร่) ร้อยละ 8 - 33 ได้แก่ สายพันธุ์ V1 P12Nan37M5 C118(N) Nan15GY L3401/SR2 และพวงมะไฟ ที่ให้ผลผลิต 141 133 124 121 119 และ 115 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ สำหรับเปอร์เซ็นต์หีบและคุณภาพเส้นใยพบว่า ค่าเปอร์เซ็นต์หีบเฉลี่ยของทุกพันธุ์ 36.71 เปอร์เซ็นต์ ความยาวเส้นใยเฉลี่ย 1.01 นิ้ว ความเหนียวเส้นใยเฉลี่ย 16.3 กรัมต่อเท็กซ์ ความสม่ำเสมอเส้นใย 53% และความละเอียดอ่อนเส้นใย 4.3


ไฟล์แนบ
.pdf   124_2557.pdf (ขนาด: 182.7 KB / ดาวน์โหลด: 372)
ตอบกลับ




ผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้: 3 ผู้เยี่ยมชม