01-31-2017, 02:24 PM
การปรับปรุงพันธุ์งาแดงเพื่อผลผลิตสูง : การเปรียบเทียบในท้องถิ่น
ธำรง เชื้อกิตติศักดิ์, สมใจ โควสุรัตน์, จุไรรัตน์ หวังเป็น, สมพงษ์ ชมภูนุกูลรัตน์, ณัฐภัทร์ คำหล้า, เพ็ญรัตน์ เทียมเพ็ง และศิริวรรณ อำพันฉาย
ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี, ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ และศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์
ธำรง เชื้อกิตติศักดิ์, สมใจ โควสุรัตน์, จุไรรัตน์ หวังเป็น, สมพงษ์ ชมภูนุกูลรัตน์, ณัฐภัทร์ คำหล้า, เพ็ญรัตน์ เทียมเพ็ง และศิริวรรณ อำพันฉาย
ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี, ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ และศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์
เพื่อให้ได้พันธุ์งาแดงที่ให้ผลผลิตสูง โดยคัดเลือกพันธุ์งาแดงจากแปลงเปรียบ เทียบพันธุ์มาตรฐานดำเนินการทดลองในปี 2556 - 2557 2 ฤดู คือ ต้นฤดูฝน และปลายฤดูฝน ใน 3 สถานที่ คือ ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ วางแผนการทดลองแบบ RCB 3 ซ้ำ ขนาดแปลงย่อย 3 x 5 เมตร ปลูกงาแดงจำนวน 12 พันธุ์/สายพันธุ์ ใช้พันธุ์อุบลราชธานี 1 เป็นพันธุ์ตรวจสอบ ระยะปลูก 50 x 10 เซนติเมตร พื้นที่เก็บเกี่ยว 2 x 5 เมตร ผลการทดลองพบว่า ปี 2556 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ต้นฤดูฝนพันธุ์อุบลราชธานี 1 ให้ผลผลิตสูงที่สุด 74 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับอีก 9 พันธุ์/สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 65 - 51 กก./ไร่ ปลายฤดูฝนสายพันธุ์ SM197 ให้ผลผลิตมากที่สุด 37 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างกับอีก 7 พันธุ์/สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 30 - 19 กก./ไร่ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์ ต้นฤดูฝนสายพันธุ์ NS171 ให้ผลผลิตสูงสุด 204 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างกับ 5 พันธุ์/สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิต 188 - 162 กก./ไร่ ปลายฤดูฝนสายพันธุ์ AT61 ให้ผลผลิตมากที่สุด 182 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างกับอีก 10 สายพันธุ์ ที่มีผลผลิตอยู่ระหว่าง 130 - 175 กก./ไร่ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ต้นฤดูฝนสายพันธุ์ AT61 ให้ผลผลิตสูงที่สุด 269 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับอีก 7 พันธุ์/สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 259 - 235 กก./ไร่ ปลายฤดูฝนสายพันธุ์ SM195 ให้ผลผลิตสูงที่สุด 244 กก./ไร่ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ พบปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์กับฤดู ดังนั้น ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีช่วงต้นฤดูฝน ได้แก่ NS171 อุบลราชธานี1 เกษตร อุบลราชธานี2 TRS9 และ SM296 ส่วนปลายฤดูฝน เกือบทุกสายพันธุ์ให้ผลผลิตดียกเว้นพันธุ์อุบลราชธานี 2 ส่วนที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ พันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีต้นฤดูฝน ได้แก่ สายพันธุ์ AT61 SM195 SM196 SM197 NS171 RSMUB54-12 SM296 และ SM155 ส่วนปลายฤดูฝน ได้แก่ สายพันธุ์ SM195 NS171 SM155 เกษตร อุบลราชธานี 2 อุบลราชธานี 1 SM196 และ RSMUB54-12 ปี 2557 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี ต้นฤดูฝนกระทบปัญหาฝนตกชุก ไม่สามารถดำเนินการได้ ปลายฤดูฝน สายพันธุ์ RSMUB54-12 ให้ผลผลิตมากที่สุด 53 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างกับอีก 8 สายพันธุ์/พันธุ์ ที่ให้ผลผลิตระหว่าง 52 - 36 กก./ไร่ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่เพชรบูรณ์ ต้นฤดูฝน สายพันธุ์ RSMUB54-12 ให้ผลผลิตสูงสุด 436 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างกับสายพันธุ์ SM195 และ SM196 ที่ให้ผลผลิต 356 และ 353 กก./ไร่ ตามลำดับ ปลายฤดูฝนสายพันธุ์ RSMUB54-12 ให้ผลผลิตมากที่สุด 245 กก./ไร่ แต่ไม่แตกต่างกับอีก 10 สายพันธุ์ ที่มีผลผลิตอยู่ระหว่าง 234 - 206 กก./ไร่ ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ต้นฤดูฝนสายพันธุ์เกษตรให้ผลผลิตมากที่สุด 146 กก./ไร่ ไม่แตกต่างกับสายพันธุ์ AT61 ที่ให้ผลผลิต 126 กก./ไร่ ปลายฤดูฝนทุกพันธุ์ผลผลิตไม่แตกต่างกัน มีความแปรปรวนอยู่ระหว่าง 249 - 334 กก./ไร่ ข้อมูลผลผลิตไม่สามารถวิเคราะห์ความแปรปรวนรวมได้ เพราะข้อมูลไม่เป็นเอกภาพ (heterogeneity) เมื่อเฉลี่ยทั้งสองฤดูทั้ง 2 ปี ใน 3 สถานที่ พบว่ามีเพียง 2 สายพันธุ์ คือ SM196 และ RSMUB54-12 เท่านั้นที่มีผลผลิตมากกว่าพันธุ์อุบลราชธานี1 ทำการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตใกล้เคียงกับอุบลราชธานี 1 จำนวน 6 สายพันธุ์ ได้แก่ SM195 SM196 RSMUB54-12 AT61 NS171 และเกษตร เข้าเปรียบเทียบในไร่เกษตรกรต่อไป