การใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีกับข้าวโพด 3 พันธุ์
#1
การใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีกับข้าวโพด 3 พันธุ์
สมควร คล้องช้าง, สมฤทัย ตันเจริญ, ชลวุฒิ ละเอียด และสาธิต อารีรักษ์
กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา สำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์

          ศึกษาถึงผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีกับข้าวโพดลูกผสม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีให้เหมาะสมกับข้าวโพด ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมี และหาเทคโนโลยีการจัดการดินและปุ๋ยแบบผสมผสานที่เหมาะสมกับพืชเฉพาะพื้นที่ ในปี พ.ศ. 2549-2551 วางแผนการทดลองแบบ Split plot design จำนวน 3 ซ้ำ ปัจจัยหลักประกอบด้วยข้าวโพดพันธุ์ลูกผสม 3 พันธุ์ คือ นครสวรรค์ 2 (NS2), นครสวรรค์ 3 (NS3) และ NSX042022 ปัจจัยรองประกอบด้วย 7 กรรมวิธี คือ ไม่ใส่ปุ๋ย (control), ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1, มูลไก่ อัตรา 1 ตัน/ไร่, ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี, ปุ๋ยชีวภาพ+ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี, ปุ๋ย 10-5-5 และ 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ในปี 2552 เปลี่ยนกรรมวิธีการทดลองจากกรรมวิธีที่ 2 และ 6 เป็นกรรมวิธีลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนลง 15 และ 20 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1 บนดินเหนียวสีแดงที่มีค่า pH 5.3-7.1 ปริมาณอินทรียวัตถุ 1.45-1.97 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ 12.3-74.8 และ 72.64-313.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ

          ผลการศึกษาในปี 2549-2551 ซึ่งเป็นการปลูกซ้ำที่เดิมพบว่า ข้าวโพดพันธุ์ลูกผสม NSX042022 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 780 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับพันธุ์นครสวรรค์ 3 และนครสวรรค์ 2  ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 730 และ 696 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และการใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ให้ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ยสูงสุด 1,077 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาได้แก่ การใส่ปุ๋ย 10-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 874 กิโลกรัมต่อไร่ การใส่วัสดุอินทรีย์มูลไก่อัตรา 1 ตันต่อไร่ ปุ๋ยชีวภาพร่วมกับปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี ปุ๋ยผสมอินทรย์เคมี การไม่ใส่ปุ๋ยและปุ๋ยชีวภาพให้ผลผลิตเฉลี่ย 745, 733, 709, 505 และ 503 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ และไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์ข้าวโพดกับการใส่ปุ๋ยวิธีต่างๆ

          ผลการศึกษาปี 2552-2553 ทำการทดลองปลูกซ้ำที่เดิมเป็นปีที่ 4-5 พบว่า ข้าวโพดพันธุ์ลูกผสมนครสวรรค์ 3 (NS3) ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด 988 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับพันธุ์ NSX042022 และพันธุ์นครสวรรค์ 2 (NS2) ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 981 และ 959 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ การใส่ปุ๋ยอัตราแนะนำ 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ให้ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ยสูงสุด 1,104 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาได้แก่ การใส่ปุ๋ย 17-10-10 + ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1 ที่ให้ผลผลิตข้าวโพดเฉลี่ย 1,083 กิโลกรัมต่อไร่ มากกว่าและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการใส่ปุ๋ย 16-10-10 + ปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1, ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมีร่วมกับปุ๋ยชีวภาพพีจีพีอาร์ 1, ปุ๋ยผสมอินทรีย์เคมี และแกลบมูลไก่ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,047 1,043 1,027 และ 992 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ การไม่ใส่ปุ๋ย (control) ให้ผลผลิตเฉลี่ยต่ำสุด 560 กิโลกรัมต่อไร่ และไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพันธุ์ข้าวโพดกับการใส่ปุ๋ยวิธีต่างๆ


ไฟล์แนบ
.pdf   1956_2553.pdf (ขนาด: 1.51 MB / ดาวน์โหลด: 3,695)
ตอบกลับ




ผู้ที่กำลังดูเรื่องนี้: 1 ผู้เยี่ยมชม