การศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพ วัสดุอินทรีย์ และปุ๋ยเคมีต่อผลผลิตข้าวโพดในดินเหนียวสีแดง วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design มี 3 ซ้ำ ประกอบด้วย 8 กรรมวิธี ดังนี้ (1) กรรมวิธีควบคุม (2) ใส่ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน (3) ใส่ปุ๋ยเคมี 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับมูลไก่ (4) ใส่ปุ๋ยเคมี 20-10-10 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่ + ปุ๋ยชีวภาพ (จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต) (5) ใส่ปุ๋ยเคมี 15-7.5-7.5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่ (6) ใส่ปุ๋ยเคมี 15-7.5-7.5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่ + ปุ๋ยชีวภาพ (จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต) (7) ใส่ปุ๋ยเคมี 10-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่ (8) ใส่ปุ๋ยเคมี 10-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่ + ปุ๋ยชีวภาพ (จุลินทรีย์ฟอสเฟต)

          ผลการทดลองพบว่า การเจริญเติบโตด้านความสูงของข้าวโพดที่อายุ 60 วัน และที่ระยะเก็บเกี่ยว การใช้ปุ๋ยเคมี 10-5-5 กิโลกรัมต่อไร่ของ N-P2O5-K2O ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่ + ปุ๋ยชีวภาพ (จุลินทรีย์ฟอสเฟต) ทำให้ข้าวโพดมีความสูงสุดเท่ากับ 229.0 และ 227.6 เซนติเมตร ตามลำดับ แตกต่างทางสถิติกับกรรมวิธีควบคุมซึ่งไม่ใส่ปุ๋ยเคมี กรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว กรรมวิธีทดลองที่มีการใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และกรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพ ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในด้านความสูงที่ระยะต่างๆ ของการเจริญเติบโต โดยให้ค่าเฉลี่ยความสูงไม่แตกต่างกัน สำหรับองค์ประกอบผลผลิตและผลผลิตของข้าวโพดพบว่า ในทุกกรรมวิธีที่มีการใส่ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยมูลไก่ และปุ๋ยชีวภาพ (จุลินทรีย์ละลายฟอสเฟต) ไม่ทำให้จำนวนต้นต่อไร่ จำนวนฝักต่อไร่ แตกต่างกัน แต่ทำให้น้ำหนักต้นต่อไร่และผลผลิตของข้าวโพดในกรรมวิธีทดลองที่มีการใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพสูงกว่ากรรมวิธีควบคุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ โดยกรรมวิธีที่มีการใช้ปุ๋ยเคมี 20-10-10 ร่วมกับปุ๋ยมูลไก่และปุ๋ยชีวภาพ มีผลผลิตข้าวโพดสูงที่สุดเท่ากับ 1,207.8 กิโลกรัมต่อไร่