การจัดการโรคราสนิมขาวของเบญจมาศ - printable_version +- คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร (https://www.doa.go.th/research) +-- คลังข้อมูล: รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=1) +--- คลังข้อมูล: ผลงานวิจัยและพัฒนา ปี 2555 (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=5) +--- เรื่อง: การจัดการโรคราสนิมขาวของเบญจมาศ (/showthread.php?tid=490) |
การจัดการโรคราสนิมขาวของเบญจมาศ - doa - 11-30-2015 การจัดการโรคราสนิมขาวของเบญจมาศ อมรรัตน์ ภู่ไพบูลย์, พัชราภรณ์ ลีลาภิรมย์กุล, ยุทธศักดิ์ เจียมไชยศรี, อภิรัชต์ สมฤทธิ์, ธารทิพย ภาสบุตร และพีระวรรณ วัฒนวิภาส สำนักผู้เชี่ยวชาญ กรมวิชาการเกษตร, สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1 และกลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช ทดลองการจัดการโรคราสนิมขาวของเบญจมาศ มีสาเหตุจากรา Puccinia horiana P. Henn. ระหว่างปี พ.ศ. 2554 - 2555 ที่บ้านห้วยหวาย ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block (RCB) โดยชุบต้นกล้าเบญจมาศในสารป้องกันกำจัดโรคพืชก่อนปลูกแล้วพ่นด้วยสารทดสอบชนิดเดียวกัน การทดลองมี 6 กรรมวิธี กรรมวิธีละ 4 ซ้ำ ผลการตรวจและประเมินความรุนแรงของโรคครั้งสุดท้ายก่อนเก็บเกี่ยวเมื่อเบญจมาศอายุ 70 วัน พบว่ากรรมวิธีชุบต้นกล้าแล้วพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช Pyraclostrobin 25% SC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการป้องกันกำจัดโรคราสนิมขาวของเบญจมาศ มีระดับการเป็นโรคต่ำที่สุด 2.83 ส่วนกรรมวิธีอื่นๆ ได้แก่ การชุบต้นกล้าเบญจมาศและพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช Difenoconazole 25% EC, Axoxystrobin 5% SC, Hexaconazole 5% EC และ Propiconazole 25% EC มีระดับการเป็นโรค 3.25, 3.30, 3.48 และ 3.65 ตามลำดับ กรรมวิธีเปรียบเทียบโดยชุบต้นกล้าในน้ำเปล่า มีระดับการเป็นโรคสูงที่สุด คือ 4.30
|