คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร
การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวในสับปะรด - printable_version

+- คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร (https://www.doa.go.th/research)
+-- คลังข้อมูล: รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=1)
+--- คลังข้อมูล: ผลงานวิจัยและพัฒนา ปี 2557 (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=7)
+--- เรื่อง: การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวในสับปะรด (/showthread.php?tid=2256)



การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวในสับปะรด - doa - 02-01-2017

การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวในสับปะรด
ศุกร์ เก็บไว้, จิตต์ เหมพนม และนลินี จาริกภากร
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปัตตานี

          การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการโรคเหี่ยวในสับปะรด ดำเนินการในแปลงทดลองศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปัตตานี ในปี 2555 - 2557 วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design (RCB) จำนวน 4 ซ้ำ 5 กรรมวิธี คือ 1) วิธีเกษตรกร  2) จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกในน้ำร้อนอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที 3) จุ่มหน่อพันธุ์ด้วยสารเคมีอิมิดาโคลพริด อัตรา 4 กรัม/น้ำ 20 ลิตร 4) จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารควบคุมการเจริญเติบโตเร่งราก (NAA) 5) จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกด้วยน้ำหมักพบว่า กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกในน้ำร้อนอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที มีต้นสับปะรดที่เป็นโรคเหี่ยวต่ำสุด คือ 16.30  เปอร์เซ็นต์ รองลงมา ได้แก่ กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ด้วยสารเคมีอิมิดาโคลพริด อัตรา 4 กรัม/น้ำ 20 ลิตร กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกด้วยน้ำหมัก กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารควบคุมการเจริญเติบโตเร่งราก (NAA) และกรรมวิธีเกษตรกร มีเปอร์เซ็นต์การเป็นโรคเหี่ยว 20.73 29.17 31.71 และ 62.95 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ รายได้สุทธิ พบว่า กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกในน้ำร้อนอุณหภูมิ 55 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที ให้รายได้สุทธิสูงสุด คือ 20,380 บาท รองลงมา ได้แก่ กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ด้วยสารเคมีอิมิดาโคลพริดอัตรา 4 กรัม/น้ำ 20 ลิตร กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกด้วยน้ำหมัก กรรมวิธีที่จุ่มหน่อพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารควบคุมการเจริญเติบโตเร่งราก (NAA) และกรรมวิธีเกษตรกร ให้รายได้สุทธิ 15,150 7,220 2,400 และ -6,790 บาท ตามลำดับ