คุณภาพผลผลิตและผลิตภัณฑ์ เช่น คุณภาพน้ำมันบริโภค องค์ประกอบทางเคมี เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรท ความชื้น ความหนืดแป้ง ปริมาณอมิโลส ปริมาณสารพิษแอฟลาทอกซิน ปริมาณน้ำตาล ปริมาณแมลงที่ทำลายผลผลิต เป็นต้น คุณภาพและองค์ประกอบทางเคมีเหล่านี้เป็นข้อมูลที่สำคัญในการซื้อขายผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพผลผลิต รักษามาตรฐานคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งต้องใช้การวิเคราะห์คุณภาพในห้องปฏิบัติการ ซึ่งใช้เวลานาน ใช้สารเคมีที่อันตราย ใช้ผู้มีประสบการณ์ เครื่องมือมีราคาสูง และตัวอย่างจะถูกทำลาย ข้อจ้ากัดเหล่านี้ จึงนำเทคนิค Near Infrared Spectroscopy: NIRS จึงได้นำมาใช้ในการประเมินคุณภาพผลผลิตและผลิตภัณฑ์ เพราะสามารถประเมินคุณภาพได้สูง ได้ค่าที่ถูกต้อง แม่นยำ ได้ดีหรือใกล้เคียงกับการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ใช้เวลาสั้น ไม่ทำลายตัวอย่าง ไม่จ้าเป็นต้องใช้ผู้มีประสบการณ์ เทคนิค NIRS ใช้การวิคราะห์ทางสถิติ หาความสัมพันธ์ระหว่างค่าการการดูดซับแสงในย่าน NIR (800 - 2500 นาโนเมตร) และค่าการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ โดยเลือกสมการที่มีความสัมพันธ์ที่มีค่าสหสัมพันธ์สูงใกล้เคียง 1 ค่าความคลาดเคลื่อนในการสร้างสมการ (SEC) และค่าความคลาดเคลื่อนในการประเมินผล (SEP) ต่ำที่สุด หรือต่ำกว่าค่าการเบี่ยงเบนมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ (sd) จากการศึกษาพบว่า เทคนิค NIRS สามารถใช้ในการประเมินคุณภาพน้ำมันบริโภค องค์ประกอบทางเคมีในผลผลิต เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรท ความชื้น ปริมาณสารพิษแอฟลาทอกซิน ความหนืดแป้ง ปริมาณอมิโลส ปริมาณน้ำตาล ปริมาณแมลงที่ทำลายผลผลิต เป็นต้น โดยใช้ตัวอย่างในรูปเมล็ด แป้ง ของเหลว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ