คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร
การศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของรา Phytophthora capsici - printable_version

+- คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร (https://www.doa.go.th/research)
+-- คลังข้อมูล: รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=1)
+--- คลังข้อมูล: ผลงานวิจัยและพัฒนา ปี 2556 (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=6)
+--- เรื่อง: การศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของรา Phytophthora capsici (/showthread.php?tid=1881)



การศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของรา Phytophthora capsici - doa - 10-12-2016

การศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของรา Phytophthora capsici
อมรรัตน์ ภู่ไพบูลย์, ยุทธศักดิ์ เจียมไชยศรี, ธารทิพย ภาสบุตร, อภิรัชต์ สมฤทธิ์ และพีระวรรณ พัฒนวิภาส
ผู้เชี่ยวชาญ สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช และกลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช

          ได้เก็บรวบรวมตัวอย่างโรคเหี่ยวของพริก ระหว่างเดือนตุลาคม 2553 - เดือนกันยายน 2556 จากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน เพชรบูรณ์ ตาก และศรีสะเกษ เพื่อศึกษาชีววิทยาและนิเวศวิทยาของรา Phytophthora capsici พบโรครากเน่าโคนเน่าพริกหวานหรือพริกยักษ์ โรครากเน่าโคนเน่าพริกขี้หนู โรครากเน่าโคนเน่าพริกหนุ่ม และโรครากเน่าโคนเน่ามะเขือยาว เมื่อแยกเชื้อบริสุทธิ์ได้รา Phytophthora sp. จำนวน 17 ไอโซเลท ราทำให้พืชแสดงอาการเหี่ยวทั้งต้น ตั้งแต่ยอด ใบ และผล รากและโคนต้นถูกทำลาย เกิดอาการรากเน่า โคนเน่า และทำให้เกิดอาการเน่าคอดิน ราสร้างเส้นใยที่เจริญได้ดีบนอาหารวุ้นแครอท และสร้างสปอร์จำนวนมากบนอาหารแข็ง เมื่อสปอร์มีอายุมากขึ้นจะหลุดออกจากก้านชูสปอร์ได้ง่าย โดยมีก้านสปอร์ขนาดยาวติดอยู่ ด้านบนของสปอร์มีส่วนเปิดสำหรับเป็นทางออกของสปอร์ที่มีหางและว่ายน้ำได้ เด่นชัด รา P. capsici ทำให้พืชทดสอบ ได้แก่ พริกหวาน พริกหยวก พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู มะเขือเทศ ตำลึง และเส็ง เป็นโรค แผลขยาย 10 – 20 มิลลิเมตร แสดงอาการแผลเน่าสีน้ำตาลดำ ถึงสีดำ

          ผลการศึกษาแบบคู่ผสมพบว่า รา P. capsici ทุกไอโซเลทที่ศึกษา มีแบบคู่ผสมเป็น A2 ราสามารถผสมกับ รา P. palmivora สาเหตุโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียนที่มี แบบคู่ผสมเป็น A1 ได้ วัดขนาด oospores, oogonium และ antheridium ที่เกิดขึ้นทุกไอโซเลท พบว่า ตำแหน่งของ antheridia บนผิวของ oogonium เป็นแบบ amphigynous antheridium คือ antheridia ไปเกาะอยู่ด้านล่างหรือด้านใต้ของ oogonia โดยมี antheridia 1 อันเกาะ โอโอโกเนียม 1 อัน ภายใน สร้าง oospore 1 อัน antheridium มีรูปร่างแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาด antheridia เฉลี่ย 14.42 ± 2.43 x 12.25 ± 2.73 um ผิวผนัง oogonium เรียบ รูปร่างกลม ขนาดเฉลี่ย 29.50 ± 1.90 um oospore ผนังหนา เรียบ ขนาดเฉลี่ย 23.67 ± 1.94 um อยู่ใน oogonia เป็นแบบหลวมๆ อยู่ภายใน oogonia ราสร้าง oogonia, antheridia และ oospores ใส