การทดสอบสายพันธุ์เบญจมาศที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนบน ดำเนินการทดลองที่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จ.เชียงใหม่ ระดับความสูง 1,300 ม. จากระดับน้ำทะเล ระหว่างเดือน ต.ค.2548 - ก.ย.2551 เพื่อหาสายพันธุ์เบญจมาศที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนบน วางแผนการทดลองแบบ RCB พันธุ์เป็นกรรมวิธี ดังนี้ ปี 2549 - 2550 กลุ่มพันธุ์ดอกเดี่ยว 5 สายพันธุ์ ได้แก่ สโนดอนขาว สโนดอนเหลือง เรโซมีดาร์ค ไรวารีและเรโซมี กลุ่มพันธุ์ดอกช่อ 5 พันธุ์ ได้แก่ เรแกนซันนี่ เรแกนดาร์ค เรแกนขาว สตรอยก้า และโตริโด้ ปี 2551 กลุ่มพันธุ์ดอกเดี่ยว 5 สายพันธุ์ ได้แก่ สโนดอนเหลือง ชาร์มร็อก เรสซิเดนท์ รีโบเนต และเรโซมีเป็นพันธุ์เปรียบเทียบ กลุ่มพันธุ์ดอกช่อ 4 พันธุ์ ได้แก่ เรแกนดาร์ค เรแกนอิมพรูพ รีแลนซ์ และโตริโด้ พบว่า ปี 2549 - 2550 ทั้งกลุ่มพันธุ์ดอกเดี่ยวและกลุ่มพันธุ์ดอกช่อ มีความแตกต่างกันทางสถิติในอายุเก็บเกี่ยว ความยาวก้านดอก เส้นผ่าศูนย์กลางดอก ความหนาดอก แต่ไม่ความแตกต่างกันทางสถิติในจำนวนดอกต่อช่อ อายุปักแจกัน และราคาผลผลิต ปี 2551 กลุ่มพันธุ์ดอกเดี่ยว มีความแตกต่างกันทางสถิติในเส้นผ่าศูนย์กลางดอก และอายุปักแจกัน แต่ไม่ความแตกต่างกันทางสถิติในอายุเก็บเกี่ยว ความยาวก้านดอก จำนวนดอกต่อช่อ และราคาผลผลิต กลุ่มพันธุ์ดอกช่อ มีความแตกต่างกันทางสถิติในอายุเก็บเกี่ยว ความยาวก้านดอก เส้นผ่าศูนย์กลางดอก จำนวนดอกต่อช่อ และอายุปักแจกัน แต่ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในจำนวนดอกต่อช่อ และราคาผลผลิต และพบว่าฤดูกาลมีอิทธิพลต่อลักษณะคุณภาพของดอกเบญจมาศในแต่ละกลุ่ม และสายพันธุ์ การทดลองเป็นการปลูกนอกฤดู (ม.ค - ก.พ) พบว่า เกรดดอกจัดเป็นเกรดคละ ดอกเดี่ยวราคา 2 บ./ดอก (ปกติ 2 - 7 บ.) และดอกช่อราคา 20 - 30 บ./กำ (ปกติ 30 - 120 บ.) การเลือกปลูกสายพันธุ์เบญจมาศที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนบน ควรคำนึงถึงเทคโนโลยีการผลิตเบญจมาศโดยเฉพาะการผลิตนอกฤดู การจัดการพันธุ์ พื้นที่ ศัตรูพืช และตลาด คือ ต้องการดอกและสีแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ต้องการสีขาวและสีเหลือง ดังนั้นควรมีการสำรวจตลาดล่วงหน้าเพื่อวางแผนการผลิต และได้ผลผลิตตรงกับความต้องการของตลาด