ผลของอัตราความเข้มข้นของสารกำจัดวัชพืชและปริมาณน้ำต่อประสิทธิภาพการควบคุมวัชพืช - printable_version +- คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร (https://www.doa.go.th/research) +-- คลังข้อมูล: รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=1) +--- คลังข้อมูล: ผลงานวิจัยและพัฒนา ปี 2556 (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=6) +--- เรื่อง: ผลของอัตราความเข้มข้นของสารกำจัดวัชพืชและปริมาณน้ำต่อประสิทธิภาพการควบคุมวัชพืช (/showthread.php?tid=1241) |
ผลของอัตราความเข้มข้นของสารกำจัดวัชพืชและปริมาณน้ำต่อประสิทธิภาพการควบคุมวัชพืช - doa - 05-19-2016 ผลของอัตราความเข้มข้นของสารกำจัดวัชพืชและปริมาณน้ำต่อประสิทธิภาพการควบคุมวัชพืชโดยใช้เทคนิคการลูบ คมสัน นครศรี, ภัทร์พิชชา รุจิระพงศ์ชัย และทิพย์ดารุณี สิทธินาม กลุ่มวิจัยวัชพืช ส้านักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาญจนบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 ผลของอัตราความเข้มข้นของสารกำจัดวัชพืชและปริมาณน้ำต่อประสิทธิภาพการควบคุมวัชพืชโดยใช้เทคนิคการลูบ วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 10 กรรมวิธี ประกอบด้วย การใช้สารกำจัดวัชพืช 2,4-D อัตรา 160 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อไร่ (เพื่อกำจัดหญ้ายาง) และสารกำจัดวัชพืช fenoxaprop-p-ethyl อัตรา 8 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อไร่ (เพื่อกำจัดหญ้านกสีชมพู) กับปริมาณน้ำ อัตรา 5, 10, 15, 20, 25, 30, 35 และ 40 ลิตร เปรียบเทียบกับวิธีการพ่นน้ำเปล่า โดยในการทดลองนี้ใช้ปริมาณน้ำ 80 ลิตรต่อไร่ (ถังแบบโยกสะพายหลัง) พบว่า สาร 2, 4-D อัตรา 160 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อไร่ กับน้ำปริมาณ 5, 10 และ 15 ลิตร มีแนวโน้มในการควบคุมหญ้ายางได้ดี โดยมีประสิทธิภาพในการควบคุมหญ้ายางได้ดี ถึง 30 วันหลังลูบสาร และมีจำนวนต้นตายมากที่สุด 182.75 11.025 และ 70.00 ต้นต่อตารางเมตร แตกต่างทางสถิติกับกรรมวิธีการใช้น้ำปริมาณ 80 ลิตรต่อไร่ ส่วนการใช้สารกำจัดวัชพืช fenoxaprop-p-ethyl อัตรา 8 กรัมสารออกฤทธิ์ต่อไร่ กับน้ำปริมาณ 5, 10, 15 และ 20 ลิตร สามารถควบคุมหญ้านกสีชมพูได้ดี ถึงระยะ 30 วันหลังพ่นสาร และไม่พบการฟื้นตัวของวัชพืช
|