การควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าของทุเรียนโดยใช้ชีวภัณฑ์ที่ผลิตได้จากเชื้อ B. subtilis - printable_version +- คลังผลงานวิจัย กรมวิชาการเกษตร (https://www.doa.go.th/research) +-- คลังข้อมูล: รายงานผลงานวิจัยและพัฒนา (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=1) +--- คลังข้อมูล: ผลงานวิจัยและพัฒนา ปี 2556 (https://www.doa.go.th/research/forumdisplay.php?fid=6) +--- เรื่อง: การควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าของทุเรียนโดยใช้ชีวภัณฑ์ที่ผลิตได้จากเชื้อ B. subtilis (/showthread.php?tid=1090) |
การควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าของทุเรียนโดยใช้ชีวภัณฑ์ที่ผลิตได้จากเชื้อ B. subtilis - doa - 01-08-2016 การควบคุมโรครากเน่าและโคนเน่าของทุเรียนโดยใช้ชีวภัณฑ์ที่ผลิตได้จากเชื้อ Bacillus subtilis นลินี ศิวากรณ์, พจนา ตระกูลสุขรัตน์ และศิริพร วรกุลดำรงชัย กลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช และศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 โรครากเน่าและโคนเน่าของทุเรียนนับเป็นปัญหาที่สำคัญมากต่อการปลูกทุเรียนซึ่งมีสาเหตุเกิดจากเชื้อรา Phytophthora palmivora Butler(1919) การค้นพบเชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis ที่มีประสิทธิภาพดีในการยับยั้งและกำจัดเชื้อราสาเหตุโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียนในห้องปฏิบัติการโดยไม่ทำให้ทุเรียนเกิดโรค ได้แก่ เชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis strain5102 ผลิตภัณฑ์จากเชื้อ Bacillus subtilis 5102 สามารถรักษาโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียนได้โดยต้นที่ได้รับการรักษาด้วยการลอกเปลือกบริเวณที่เป็นโรคและทาด้วยผลิตภัณฑ์ผงเชื้อ B. subtilis 5102 จำนวน 4 ครั้ง รวมทั้งใช้เข็มฉีดเชื้อ 5102 จำนวน 1 ครั้ง ต้นทุเรียนที่ได้รับการรักษาอาการโคนเน่าจะเริ่มหายเป็นปกติโดยเนื้อเยื่อส่วนที่เป็นโรคฟื้นตัวเป็นเนื้อไม้ปกติ แผลที่เป็นโรคแห้ง บริเวณที่เป็นแผลสีน้ำตาลเป็นจุดเล็กกระจายตัวไม่รวมตัวกันเนื้อเยื่อบางส่วนเริ่มกลับเป็นเนื้อเยื่อปกติมีสีขาว น้ำยางสีน้ำตาลหยุดไหล ต้นทุเรียนมีลักษณะสมบูรณ์ฟื้นตัวใบตั้งมีสีเขียวสดใส ส่วนต้นทุเรียนที่ทาและราดดินด้วยสารเคมีเมทาแลกซิลเนื้อเยื่อบริเวณแผลที่เป็นโรคมีสีน้ำตาลฉ่ำน้ำเป็นบริเวณกว้างตามรอยแผลที่เป็นโรค เนื้อเยื่อเปื่อยยุ่ยและมีน้ำยางสีน้ำตาลไหลตามแผลที่ทาด้วยสารเคมีจนเป็นแผลฉ่ำน้ำบริเวณกว้าง ต้นและใบไม่ฟื้นตัว ต้นทุเรียนมีคะแนนระดับการเป็นโรคบนต้นที่ใช้ผลิตภัณฑ์ผงเชื้อ B.subtilis 5102 ต่ำกว่าการใช้สารเคมีเมทาแลกซิล และปริมาณ sporangium ที่ตรวจพบในดินก่อนการทดลองในกรรมวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ผงเชื้อ พบปริมาณ sporangium ที่ระดับ 5.47 และก่อนการใช้สารเคมีเมทาแลกซิลพบปริมาณ sporangium ที่ระดับ 3.60 และหลังจากใส่ผลิตภัณฑ์ผงเชื้อ B. subtilis 5102 พบปริมาณ sporangium อยู่ในระดับเดียวกับการใช้สารเคมีเมทาแลกซิล โดยใช้ผลิตภัณฑ์ผงเชื้อ พบปริมาณ sporangium ที่ระดับ 2.65 ซึ่งไม่มีความแตกต่ากันทางสถิติกับกรรมวิธีการใช้สารเคมีเมทาแลกซิลตรวจพบปริมาณ sporangium ที่ระดับ 1.88
|