การเปรียบเทียบพันธุ์ยางขั้นปลายสายพันธุ์ยางลูกผสม RRI/CH-35/1/2 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาวิธีลดระยะเวลาในการปรับปรุงพันธุ์ยาง คัดเลือกพันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์เปรียบเทียบอย่างน้อยร้อยละ 10 มีการเจริญเติบโตและลักษณะรองอื่นๆ ดี ตลอดจนปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ประกอบในการพิจารณาจัดทำคำแนะนำพันธุ์ยางต่อไป ดำเนินการทดลองโดยนำพันธุ์ยางลูกผสมของไทยปี 2535 จำนวน 13 สายพันธุ์ที่ผ่านการคัดเลือกจากแปลงคัดเลือกพันธุ์เบื้องต้นได้แก่ ลูกผสม RRI-CH-34-6, RRI-CH-35-0449, RRI-CH-35-0779, RRI-CH-35-1077, RRI-CH-35-1259, RRI-CH-35-1301, RRI-CH-35-1316, RRI-CH-35-1323, RRI-CH-35-1341, RRI-CH-35-1352, RRI-CH-35-1396, RRI-CH-35-1782 และ RRI-CH-35-1886  มีพันธุ์บางปิด และ PB 255 เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ ปลูกคัดเลือกในแปลงเปรียบเทียบพันธุ์ยางขั้นปลายพื้นที่ 35 ไร่ ของศูนย์วิจัยยางหนองคาย วางแผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design จำนวน 3 ซ้ำ ปลูกสายพันธุ์ละ 50 ต้นต่อแปลงย่อย เริ่มปลูกในปี 2540 ด้วยระยะปลูก 3 x 7 เมตร จากบันทึกข้อมูลการเจริญเติบโตของต้นยางเมื่อยางอายุ 11 ปี พันธุ์บางปิด และ PB255 ซึ่งเป็นพันธุ์เปรียบเทียบมีขนาดลำต้นเฉลี่ย 51.6 และ 50.2 ซม. ตามลำดับ ขณะที่ลูกผสม RRI-CH-35-1259 RRI-CH-35-1396 และ RRI-CH-35-1352 มีขนาดลำต้นสูงที่สุด โดยมีขนาดรอบลำต้นเฉลี่ย 56.0 54.8 และ 54.4 ซม. ตามลำดับ หลังจากเริ่มเปิดกรีดยางในปี 2551 บันทึกข้อมูลผลผลิตในรูปของยางก้อนถ้วยพบว่า จากการกรีดยางตั้งแต่ พฤษภาคม 2551 ถึง กันยายน 2553 พันธุ์บางปิด และ PB 255 ซึ่งเป็นพันธุ์เปรียบเทียบให้ผลผลิตที่แตกต่างกัน โดยให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อต้นในแต่ละครั้งกรีดเฉลี่ย 33.08 และ 26.22 กรัม/ต้น/ครั้งกรีด และมีผลผลิตรวมต่อปีเท่ากับ 176.77 และ 126.68 กิโลกรัม/ไร่/ปี ตามลำดับ ลูกผสม RRI-CH-35-1396 ให้ผลผลิตสูงที่สุดโดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 43.23 กรัม/ต้น/ครั้งกรีด และมีผลผลิตรวมเท่ากับ 217 กิโลกรัม/ไร่/ปี รองลงมาได้แก่ลูกผสม RRI-CH-35-1886 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 35.84 กรัม/ต้น/ครั้งกรีด และผลผลิตรวมต่อปีเท่ากับ 179 กิโลกรัม/ไร่/ปี