อธิบดีกรมวิชาการเกษตรขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี เร่งสั่งการด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพผนึกกำลังร่วมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์สมุทรปราการ/เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองสมุทรปราการ ควบคุมการกำจัดสารเคมีPhosphine ที่เหลือป้องกันผลกระทบกับประชาชน
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุรถกะบะบรรทุกถัง 200 ลิตรทำสารเคมีกำจัดศัตรูพืช รั่วไหล ในพื้นที่ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 ม.ค.2567 ที่ผ่านมา ในส่วนของกรมวิชาการเกษตรตนได้สั่งการให้นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่เกิดเหตุ และสอบสวนข้อมูลที่บริษัทรมยาเพื่อปฏิบัติงานร่วมกับจังหวัดและกรมควบคุมมลพิษในทันที ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าสารเคมีดังกล่าวเป็นของ บริษัท TCIS ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรมยากำจัดศัตรูพืชรายหนึ่ง ได้ขนย้ายกากสาร Phosphine จากหลังจากที่ใช้รมยาให้ลูกค้า เพื่อเอาไปกำจัดแต่เนื่องจากเก็บกากสาร Phosphine ออกมาทั้งที่ สารยังไม่หมดฤทธิ์ ไม่ได้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนจัดเก็บกากเพื่อนำไปกำจัดประกอบกับการขนย้ายผิดวิธี จึงเกิดการทำปฎิกิริยาจนเกิดไฟลุก
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้ นายชัยชนะ นุ่นเส้ง หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพและเจ้าหน้าที่ด่านฯ ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองสมุทรปราการ ควบคุมการกำจัดกาก Phosphine ที่เหลือจากการรมยา ของ บริษัท TCIS ซึ่งได้ว่าจ้างให้ บริษัท โปรเจค เวสท์ เมเน็จเม้นต์ จำกัด เข้ามารับกาก Phosphine ขนส่งไปทำลาย ณ เลขที่ 38/61 หมู่ที่ 4 ตำบลลำลูกกา อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ ได้ตรวจสอบบริษัทดังกล่าวมีเอกสารประกอบการดำเนินกิจการรับกำจัดของเสียอันตรายถูกต้อง ทั้งนี้ ด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจติดตามผลการกำจัดจนเสร็จสิ้นกระบวนการ และรายงานผู้บริหารกรมวิชาการเกษตรทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
