สถานการณ์ทุเรียนใต้ ราคารับซื้อทุเรียน วันที่ 20-24 มิ.ย. 2566 AB อยู่ที่ 120-125 บาท ซ่ึงถือว่า ราคาสูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงนี้ทุเรียนเวียดนาม เริ่มมีการเก็บเกี่ยวผลผลิต บวกกับประเทศ ไทยมีผลไม้ในฤดูกาลออกหลายชนิด ได้แก่ มังคุด เงาะ ลิ้นจี่ ทําให้ราคาทุเรียนลดลง จากช่วงต้นเดือนที่ผ่าน มา โดยราคาทุเรียนจะดีดตัวสูงขึ้นในช่วงปลายมิถุนายน จากผลผลิตที่มีไม่มากนัก เนื่องจากสถานการณ์ภัย แล้งในพื้นที่จังหวัดชุมพรทําให้ผลผลิตต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ 330,000 ตัน เหลือประมาณ 230,000 ตัน
นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อํานวยการสํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 กรมวิชาการเกษตร (ผอ.สวพ.7) กล่าวว่า สวพ.7 และ สวพ.8 ได้ร่วมกับศูนย์เครือข่าย ด่านตรวจพืช เกษตรจังหวัด และฝ่าย ปกครองจังหวัด ตรวจเข้มคุณภาพทุเรียนก่อนส่งออกตั้งแต่แปลงเกษตรกร ผู้ตัด ผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความ เชื่อมั่นให้กับประเทศจีน โดยได้นําเอาวิธีการจัดการ “จันทบุรีโมเดล” มาเป็นแบบอย่างสร้างมาตรฐานทุเรียน คุณภาพของภาคใต้ ปัจจุบันพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ได้เปิดทําการแล้ว 214 โรง ในจังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช คาดว่า จะเปิดครบทั้งหมดในปลายเดือน ก.ค. ซึ่งกรม วิชาการเกษตร จะใช้มาตรการตรวจอย่างเข้มข้นในการควบคุมคุณภาพทุเรียนก่อนการส่งออก
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร ได้จัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในการตรวจ คุณภาพทุเรียน จํานวน 104 ชุด ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติงานเพื่อรองรับการดําเนินการส่งออกทุเรียน ตลอดฤดูกาลโดยชุดเฉพาะกิจดังกล่าวได้ออกตรวจติดตามล้งตั้งแตก่่อนวันประกาศวันเก็บเกี่ยวทุเรียนวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าตรวจ ทุกตู้ ทุกล้ง เพื่อทําการตรวจแยกสีล้ง ให้เป็นสีเขียว เหลือง แดง หลัง วันที่ 10 มิ.ย. มีการวางแผนการเข้าตรวจตามประเภทล้งที่ได้จัดเกรดไว้ ล้งที่ได้สีเขียว หมายถึง ล้งที่มีการ ปฏิบัติตามระเบียบที่กําหนด ส่วนสีเหลืองและแดง คือล้งที่อาจจะมีการปฏิบัติที่คลาดเคลื่อนไปบ้างและจะต้อง เพิ่มความถี่ในการเข้าตรวจอย่างต่อเนื่องขอย้ําใหทุ้กล้งปฏิบัติตามแนวทางที่กรมวิชาการเกษตรกําหนดไว้ อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นสีเขียว ซึ่ง สวพ. 7 และ 8 จะส่งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจฯ เข้าสุ่มตรวจติดตาม อย่างต่อเนื่องจนกว่าหมดฤดูกาล
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ย้ําคุมเข้มทุเรียนใต้ ต้องได้ทั้งคุณภาพเหมือนภาคตะวันออก บูรณาการ ตรวจเข้มลงพื้นที่ 27-28 มิ.ย นี้ เปิดสายด่วน กรมวิชาการเกษตร 081-9384408 พร้อม ขึ้นทะเบียน GAP บริการ Clinic เกษตรเคลื่อนที่ เพื่ออํานวยความสะดวกให้ ประชาชน เกษตรกร เน้นย้ํา มาตรการควบคุม คุณภาพและป้องกันสวมสิทธิ์ทุกรูปแบบโดยการบรูณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทาง DOA Together