เปิดปฐมฤกษ์ สร้างคนบินโดรนเพื่อการเกษตร รุ่นแรกของประเทศ

วันที่ 8 มีนาคม 2566 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ”ภายใต้แนวคิด “วิชาการนำ นวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้การผลิตพืช” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 9 มีนาคม 2566 พร้อมมอบประกาศนียบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรร่วมกับสมาคมการค้านวัตกรรมเพื่อการเกษตรไทย (TAITA) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และภาคเอกชน ได้ Kick Off หลักสูตรแรกในประเทศไทย ในการจัดอบรมหลักสูตรการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน (โดรน)  ในช่วง 6-7 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมเพชรรัตน์ การ์เดนส์ จังหวัดร้อยเอ็ด

นายระพีภัทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีโดรนเกษตรที่บินรับจ้างพ่นสารกำจัดศัตรูพืชอยู่ประมาณ 10,000 ลำ กรมวิชาการเกษตรมีนโยบายให้ผู้รับจ้างบินโดรนดังกล่าว ได้รับการฝึกอบรมให้มีความรู้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยมีแนวทางที่จะมอบหมายให้หน่วยงานที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาจากกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ดำเนินการจัดการฝึกอบรมให้กับผู้รับจ้างต่อไป โดยมีกรมวิชาการเกษตรเป็นผู้กำกับดูแล

สำหรับ“โดรน” ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยม และยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการผลิตทางการเกษตรด้านการพัฒนาเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มผลผลิต เพิ่มผลงาน โดยใช้เวลาและทรัพยากรน้อยลง แต่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการมากขึ้น ปัจจุบันเกษตรกรมีความสนใจใช้โดรนทางการเกษตรในการพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตร พ่นชีวภัณฑ์ หว่านเมล็ดพันธุ์ หว่านปุ๋ยเม็ด โดรนเพื่อการเกษตรจะต้องใช้อย่างระมัดระวัง หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะการนำไปใช้กับการพ่นวัตถุอันตราย

“กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้รับจ้างพ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรด้วยอากาศยาน โดยตั้งเป้าในปีงบประมาณ 2566 ต้องมีผู้ผ่านการฝึกอบรม 2,000 ราย และจะดำเนินการให้ครบ 10,000 ราย ในปีงบประมาณ 2568”

นายระพีภัทร์  กล่าวอีกว่า กรมวิชาการเกษตรมีอีกหน้าที่คือ การควบคุมการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตรให้มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย  การอบรมครั้งนี้จึงมุ่งเน้นเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ ผู้พ่นวัตถุอันตรายทางการเกษตรและผู้สนใจ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และมีจรรยาบรรณที่ดีเพื่อก่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม โดยมีผู้ผ่านการอบรม 85 คน ทั้งผู้ประกอบการ เกษตรกร และผู้สนใจ ผู้ผ่านการอบรมได้รับเกียรติบัตรจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เพื่อสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพการเกษตร หรือรับจ้างในการพ่นวัตถุอันตรายด้วยอากาศยานไร้คนขับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของนิทรรศการการถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 หน่วยงานในเครือข่าย กรมวิชาการเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเอกชนร่วมกันจัดนิทรรศการต่าง ๆ โดยแบ่งออกเป็น 10 กิจกรรมดังนี้
กิจกรรมที่ 1 แปลงสาธิต
กิจกรรมที่ 2 แปลงพันธุ์พืชอินทรีย์หลังนา
กิจกรรมที่ 3 นิทรรศการ เทคโนโลยีการเกษตรครบวงจรสู่ตลาด ได้แก่ พืชเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งเป็นอ้อย ถั่วลิสง มันสำปะหลัง พืชเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ทุเรียน อโวกาโด้ กาแฟ การแสดงนิทรรศการรบภาคเอกชน อ้อย โรงงานน้ำตาลวังขนาย ถั่วลิสง บริษัทแม่รวย มันสำปะหลัง อุบลเกษตรพลังงาน อุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ บริษัทจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร
กิจกรรมที่ 4 จับคู่ธุรกิจเกษตรได้แก่ จับคู่ธุรกิจการผลิตพืชเพื่อการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องแกงจับคู่ธุรกิจการผลิตสมุนไพรสู่อุตสาหกรรมแพทย์แผนไทยจับคู่ธุรกิจกาแฟจับคู่ธุรกิจการผลิตงานเพื่อการแปรรูป
กิจกรรมที่ 5 เสวนาการผลิตพืชเศรษฐกิจในพื้นที่
กิจกรรมที่ 6 การสาธิตแปรรูปผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย มันสำปะหลัง เบเกอรี่จากแป้งมันสำปะหลัง การแปรรูปถั่วลิสงสู่ผลิตภัณฑ์ ถั่วงอก ทานตะวันคอนโด
กิจกรรมที่ 7 การจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกร
กิจกรรรมที่ 8 การแจกเมล็ดพันธุ์พืช
กิจกรรมที่ 9 โชว์นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะ ได้แก่ โดรนเพื่อการเกษตร โรงเรือนผลิตเห็ดอัจฉริยะ โรงเรือนผลิตผักอัจฉริยะ
กิจกรรมที่ 10 งานบริการวิชาการและคลินิกเกษตร

สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 และเขตที่ 4 และหน่วยงานกรมวิชาการเกษตร ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้ร่วมกันจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่กรมวิชาการเกษตร ได้รับการสถาปนาครบรอบ 50 ปี  โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้ผลิตผลงานวิจัย ด้านพันธุ์พืช และเทคโนโลยีการเกษตรที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเกษตรของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานกรมวิชาการเกษตรให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างกว้างขวางโดยมีเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจ เข้าร่วมชมงานประมาณ 1,000 คน  ซึ่งขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมชมงานได้ตั้งแต่วันที่ 8 – 9 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรร้อยเอ็ด อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด