ปทุมมาลูกผสมสายพันธุ์เชียงรายซีเอฟ 17 เป็นสายพันธุ์ที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง ปทุมรัตน์ Curcuma sparganifolia ‘Patumrat’ กับบัวขาว C. thorelii ในปี พ.ศ.2538-2541 และคัดเลือกต้นที่มีลักษณะดีในปี พ.ศ. 2542 – 2543 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย และในปีพ.ศ. 2559 – 2560 ทำการประเมินพันธุ์ลูกผสม โดยศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ ลักษณะทางการเกษตร รวมทั้งประเมินความพึงพอใจของผู้ผลิตและผู้ใช้ประโยชน์ เปรียบเทียบกับพันธุ์การค้าคือ เชียงใหม่ชมพู ในแปลงเกษตรกร จ.เชียงใหม่ และศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จ.เชียงราย
หัวเป็นประเภท Rhizome มีเส้นผ่าศูนย์กลางของหัว 1.5 – 2.0 ซม. และเนื้อของหัวมีสีครีม ลำต้นเป็นลำต้นเทียม (Pseudostem) โคนกาบใบสีน้ำตาลแดง ทรงพุ่มมีความสูง 48-60 ซม. และกว้าง 38-45 ซม. ใบมีรูปร่างแบบใบแคบ (linear) ปลายใบสอบเรียว (attenuate) มีขนาดกว้าง 5-6 ซม. และยาว 34-37 ซม. สีใบและเส้นกลางใบมีสีเขียว ช่อดอกมีลักษณะตรง มีความยาว 45 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลางช่อดอก 7 ซม. ก้านดอกมี เส้นผ่าศูนย์กลางก้านดอก 0.6 ซม. ความยาวช่วงดอกยาว 9 ซม. กลีบประดับมีรูปร่างรี (elliptic) ปลายกลีบมน (obtuse) สีชมพู มีริ้วสีขาวบริเวณปลายกลีบ ปลายกลีบขลิบสีขาวและเขียวเล็กน้อย ทำให้ดูอ่อนหวาน กลีบประดับส่วนล่างมีรูปร่างค่อนข้างกลม (orbicular) ปลายกลีบมน สีชมพู มีริ้วสีขาวจากโคนถึงปลายกลีบ ปลายกลีบขลิบสีเขียวอ่อน โคนกลีบสีเขียวอ่อน ดอกจริงมีสีดอกและปากเป็นสีม่วง สันปากมีสีแดง ปลายปากรูปแฉก (fish-tail) อายุปลูกถึงวันออกดอก 60-71 วัน ผลผลิตช่อดอก 6-8 ดอก/กอ อายุปักแจกัน 13 วัน ผลผลิตหัวพันธุ์ 5-9 หัว/กอ
พื้นที่ดอนและที่ลุ่มที่มีการระบายน้ำดี ไม่มีน้ำท่วมขัง
เพื่อป้องกันโรคหัวเน่าควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีประวัติการระบาดของโรคหัวเน่า และไม่เคยปลูกพืชอาศัยของโรคนี้ เช่น พืชตระกูลขิง มะเขือ มันฝรั่ง งา ยาสูบหากเป็นพื้นที่เดิมที่เคยปลูกปทุมมามาก่อน ควรปลูกพืชอื่นอย่างน้อย 3 ปี
พันธุ์แนะนำ รับรองเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2562
ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย สถาบันวิจัยพืชสวน