Search for:

ดาหลาพันธุ์ กวก.ยะลา 1

ดาหลาพันธุ์ กวก.ยะลา 1

     ดาหลาพันธุ์ยะลา 1 และดาหลาพันธุ์ยะลา 2 (ดาหลาลูกผสมสายต้น 8 และสายต้น 9 (บัวชมพู x ดาหลาดำ) เป็นพันธุ์ที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างดาหลาบัวชมพู (Etlingera elatior) กับ ดาหลาดำ (Etlingera fulgens) และดาหลาพันธุ์ยะลา 3 และดาหลาพันธุ์ยะลา 4 (ดาหลาลูกผสมสายต้น 2 และ สายต้น 3 (บานเย็น x แดงป่า)) เป็นพันธุ์ที่ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างดาหลาบานเย็น (Etlingera elatior) กับ ดาหลาแดงป่า (Etlingera fulgens)ในปี 2549–2551 และได้คัดเลือกต้นที่มีลักษณะดีในปี 2551–2557 ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา จังหวัดยะลา และในปี 2559–2561 ทำการประเมินพันธุ์ลูกผสม โดยศึกษาลักษณะประจำพันธุ์ ลักษณะ ทางการเกษตร ปลูกทดสอบกับพันธุ์การค้า คือ ดาหลาทั่วไปพันธุ์แดงดก ในแหล่งทดสอบ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จังหวัดเชียงราศูนย์วิจัยพืชสวนเลย จังหวัดเลย และศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี

ทรงกอตั้งตรงหรือเอียงประมาณ 10 องศา ลักษณะลำต้นมีลำต้นใต้ดิน (rhizome)ความสูง 155 –185 ซม. จำนวนใบ 8-16 ต่อต้น สีของใบอ่อนผิวใบสีเขียวอมเหลือง (YG146A) ท้องใบสีแดงอมเทา (GR178A) สีของใบแก่ผิวใบสีเขียว (G137B) ท้องใบสีเขียวอมเหลือง (YG146B) รูปร่างของใบยาวรี ขนาดของใบกว้าง 16 ซม. ยาว  66 ซม.ขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบเรียวแหลม ไม่มีขนบนแผ่นใบ เส้นก้านใบปรากฏชัดด้านท้องใบสีเขียวอมแดง ลักษณะช่อดอกทรงถ้วย ขนาดช่อดอกกว้าง 7.58ซม. ยาว 7.73 ซม. จำนวนกลีบประดับ 100 กลีบ สีของกลีบประดับสีแดงเข้ม(R53A) ขอบกลีบประดับสีแดงเข้ม (R53B) จำนวนดอกย่อย 94 ดอก สีของดอกย่อยสีแดงปลายกลีบปากสีเหลือง สีก้านช่อดอกสีแดงอมเขียว (R51A) ความยาวก้านช่อดอก 52.98 ซม.  ขนาดก้านช่อดอกกว้าง 1.1 ซม. รูปร่างผลคล้ายชมพู่ หยดน้ำ รูปไข่ (Ovate) ขนาดของผลกว้าง2.10 ซม. ยาว 3.80 ซม. จำนวนพูในผล 3 พู ขนาดของเมล็ดกว้าง0.30 ซม.ยาว 0.40 ซม. เมล็ดสีดำ จำนวนวันตั้งแต่วันแทงตาดอกถึงวันเก็บเกี่ยวดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ 66 วัน ผลผลิตดอก 386 ดอก/กอ/ปี น้ำหนักของช่อดอก 133.29 กรัม

  • ช่อดอกทรงถ้วย สีแดงเข้ม (R53A) กลีบประดับหนาเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ก้านช่อดอกสีแดงอมเขียว (R51A) ขนาดช่อดอก กว้าง x ยาว 7.58 x 7.73 เซนติเมตร เล็กกว่าพันธุ์แดงดกที่มีขนาดช่อดอก 17.01 x 8.21 เซนติเมตร
  • น้ำหนักดอกเฉลี่ย 133.29 กรัม เมื่อดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 35.4
  • ผลผลิตดอก 386 ดอกต่อกอต่อปี (อายุ 3 ปี หลังปลูก) มากกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 101
  • อายุปักแจกัน 5 วัน เมื่อดอกบาน 80-100 เปอร์เซ็นต์

     ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่มีปริมาณความเข้มแสง 80–100 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิเฉลี่ย 17-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50–81 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100–3,300 มิลลิเมตรต่อปี

     ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีประวัติของโรคเหี่ยว (Ralstonia solanacearum) และไม่เคยปลูกพืชอาศัยของโรคนี้ เช่น พืชตระกูลขิง มะเขือเทศ มันฝรั่ง งา ยาสูบ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

     พันธุ์แนะนำ รับรองเมื่อวันที่  15 สิงหาคม 2562

     ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา สถาบันวิจัยพืชสวน