Search for:

ขมิ้นชันพันธุ์ กวก.ตรัง 1

ขมิ้นชันพันธุ์ กวก.ตรัง 1

     มาจากขมิ้นชันสายต้นT11 โดยปี พ.ศ.2541-2542 ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง นำหัวพันธุ์ขมิ้นชันสายพันธุ์ดีที่ผ่านการคัดเลือกว่าเป็นสายพันธุ์ดี จำนวน 6 สายต้นมาปลูก ปี พ.ศ. 2543-2547 ได้มีการรวบรวมเพิ่มอีก 5 สายต้น ปี พ.ศ.2545 -2547 ศึกษาและเปรียบเทียบการเจริญเติบโต การให้สารสำคัญของขมิ้นชัน ปี พ.ศ. 2547-2549 ได้ปลูกทดสอบลงในแปลงเปรียบเทียบกับพันธุ์พื้นเมือง ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง  ศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี และศูนย์วิจัยพืชสวนแพร่ โดยมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกว่าต้องมีสารสำคัญ     เคอร์คูมินอยด์สูงกว่า 8 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำมันหอมระเหยสูงกว่า 7 เปอร์เซ็นต์ และให้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 2 ตันต่อไร่ ซึ่งขมิ้นชันตรัง 1 ผ่านหลักเกณฑ์การคัดเลือก คือ ให้สารสำคัญเคอร์คูมินอยด์เฉลี่ย 10.62 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันหอมระเหยเฉลี่ย 7.99 เปอร์เซ็นต์ เนื้อในเหง้ามีสีเหลืองส้ม สรุปทำการคัดเลือกและประเมินพันธุ์ตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์ ตั้งแต่ปี 2541-2550 รวมระยะเวลาการวิจัย 10 ปี มีลำต้นอยู่ใต้ดินและมีแขนงออกไปเป็นแง่ง ขนาดหัวแม่ 3.9×5.4 เซนติเมตร น้ำหนัก 29.58 กรัม ขนาดแง่ง 2.06×8.57 เซนติเมตร น้ำหนัก 16.50 กรัม สีเนื้อในเหง้าสีเหลืองส้ม ลำต้นสูง  

     มีลำต้นอยู่ใต้ดินและมีแขนงออกไปเป็นแง่ง ขนาดหัวแม่ 3.9×5.4 เซนติเมตร น้ำหนัก 29.58 กรัม ขนาดแง่ง 2.06×8.57 เซนติเมตร น้ำหนัก 16.50 กรัม สีเนื้อในเหง้าสีเหลืองส้ม ลำต้นสูง 0.55-1.0 เมตร เก็บเกี่ยวเมื่ออายุ 8-11 เดือน ให้น้ำหนักสดเฉลี่ย 2.23 ตันต่อไร่ จัดเป็นพืชที่มีศักยภาพทางการตลาด ทั้งการบริโภคสดโดยเฉพาะในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อใช้เป็นยาสมุนไพร อาหารเสริม เครื่องสำอางและอาหารสัตว์

     มีสารสำคัญเคอร์คูมินอยด์เฉลี่ย 10.62 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่ามาตรฐานยาสมุนไพรไทย
(5 เปอร์เซ็นต์) 112.4 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่ามาตรฐานการซื้อขาย (8 เปอร์เซ็นต์) 32.75 เปอร์เซ็นต์ มีน้ำมันหอมระเหยเฉลี่ย 7.99 เปอร์เซ็นต์สูงกว่ามาตรฐานยาสมุนไพรไทย (6 เปอร์เซ็นต์) 33.17 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่ามาตรฐานการซื้อขาย (7 เปอร์เซ็นต์) 14.14 เปอร์เซ็นต์ มี
ar– turmerone 47.90
เปอร์เซ็นต์ อายุเก็บเกี่ยว 11 เดือน

     ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย 81 เปอร์เซ็นต์ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,800-2,000 มิลลิเมตรต่อปี

     ไม่ควรใช้หัวพันธุ์ที่มาจากแหล่งที่เป็นโรคโคนเน่า

     พันธุ์แนะนำ  รับรองเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559

     ศูนย์วิจัยพืชสวนตรัง สถาบันวิจัยพืชสวน