Search for:

ชื่อสามัญ บ๊วย  Chinese Plum / Japasnese Apricot

ชื่อวิทยาศาสตร์  Prunus mume

ชื่ออื่นๆ  

ถิ่นกำเนิดและประวัติความเป็นมา

มีแหล่งกำเนิดในจีน แต่แพร่กระจายไปหลายประเทศ เช่นญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว พม่า และไทย  สำหรับประเทศไทยนั้นบ๊วยกระจายเข้ามาทางตอนเหนือของประเทศ เช่น จังหวัดเชียงราย ดังจะเห็นได้ว่ามีบ๊วยพันธุ์พื้นเมือง เรียกว่า พันธุ์เชียงรายหรือแม่สาย

ลักษณะทั่วไป

ไม้ต้นขนาดเล็ก ผลัดใบ ใบรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบกลม ขอบใบจักฟันเลื่อย ดอกมีสีขาว ผลกลมหรือรูปไข่ เมื่อผลแก่เต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

พันธุ์และการขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์โดยวิธีการเสียบกิ่งพันธุ์ปลูกที่เหมาะสม พันธุ์เชียงรายหรือแม่สาย พันธุ์ปิงติง  พันธุ์เจียนโถ  พันธุ์บารมี 1 (ขุนวาง 1)  และพันธุ์บารมี 2 (ขุนวาง  2)

วิธีการปลูก

ระยะปลูก 10 x 10  หรือ  12 x 12  เมตร ขุดหลุมให้มีขนาด ความกว้าง x ความยาว x ความลึก  ตั้งแต่ 70 เซนติเมตร ขึ้นไปจนถึง 1 เมตร ใส่หินฟอสเฟต อัตรา 100 -200 กรัม (1-2 ขีด) ต่อหลุม และปุ๋ยคอก (ปุ๋ยมูลสัตว์ต่างๆ) หรือ ปุ๋ยหมัก จำนวน 5-10  กิโลกรัมต่อหลุม ผสมคลุกเคล้ากับดินชั้นบนแล้วใส่ลงไปในหลุมโดยใส่ให้สูงกว่าระดับดินเดิม 10-15 เซนติเมตร

การดูแลรักษา

การใส่ปุ๋ย  :  ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 15-15-15 12-24-12 ปุ๋ยอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยคอก  หรือปุ๋ยหมัก ตามช่วงอายุ

การให้น้ำ : ทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ดังนั้นสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้ในสภาพแปลงที่อาศัยน้ำฝนเพียงอย่างเดียว

การตัดแต่งกิ่ง : รูปร่างแบบเปิดกลาง  โดยหลังปลูก 3 – 6 เดือน ให้เลือกกิ่งข้างที่ทำมุม 45 องศากับลำต้น สูงจากพื้นดิน 60 – 90 เซนติเมตร จำนวน 3 – 4 กิ่ง รอบลำต้นแล้วตัดยอด

โรคและแมลงศัตรูที่สำคัญ

โรค : ใบจุดรู และผลมีจุดลาย

แมลง : เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง หรือเพลี้ยหอย หนอนเจาะลำต้น  และแมลงวันทอง

การใช้ประโยชน์

สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ เพื่อใช้บริโภคได้ เช่น บ๊วยดองหรือบ๊วยเจี่ย บ๊วยดองหรือบ๊วยเจี่ย เหล้าดองบ๊วย ฯลฯ

แหล่งพืชอนุรักษ์

ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่

<<กลับไปหน้าฐานข้อมูลไม้ผล