Search for:

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 1 - 4, พันธุ์ตรัง 1 - 5

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 1

วันที่รับรอง    15 มกราคม 2562

ลักษณะเด่น

   1. ช่อดอกทรงถ้วย สีแดงเข้ม (R53A) กลีบประดับหนาเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ก้านช่อดอก สีแดงอมเขียว (R51A) ขนาดช่อดอก กว้าง x ยาว 7.58 x 7.73 เซนติเมตร เล็กกว่าพันธุ์แดงดกที่มีขนาดช่อดอก 17.01 x 8.21 เซนติเมตร
   2. น้าหนักดอกเฉลี่ย 133.29 กรัม เมื่อดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 35.4
   3. ผลผลิตดอก 386 ดอก/กอ/ปี (อายุ 3 ปี หลังปลูก) มากกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 101
   4. อายุปักแจกัน 5 วัน เมื่อดอกบาน 80-100 เปอร์เซ็นต์

พื้นที่แนะนำ

ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่มีปริมาณความเข้มแสง 80–100 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิเฉลี่ย 17-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50–81 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100–3,300 มิลลิเมตร/ปี

ข้อควรระวัง

ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีประวัติของโรคเหี่ยว (Ralstonia solanacearum) และไม่เคยปลูกพืชอาศัยของโรคนี้ เช่น พืชตระกูลขิง มะเขือเทศ มันฝรั่ง งา ยาสูบ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วม

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 2

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 2

วันที่รับรอง    15 มกราคม 2562

ประวัติ

ลักษณะประจำพันธุ์

ลักษณะเด่น

   1. ช่อดอกทรงถ้วย สีแดงอมส้ม (R53C) ขอบกลีบประดับสีเขียวอ่อนเด่นสะดุดตาเรียงซ้อนหลายชั้นเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ก้านช่อดอกสีเขียวอมเหลือง (YG143B) ขนาดช่อดอก กว้าง x ยาว 7.02 x 7.39 เซนติเมตร เล็กกว่า พันธุ์แดงดก ที่มีขนาดช่อดอก 17.01 x 8.21 เซนติเมตร
   2. น้ำหนักดอกเฉลี่ย 98.00 กรัม เมื่อดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 52.48
   3. ผลผลิตดอก 300 ดอกต่อกอต่อปี (อายุ 3 ปี หลังปลูก) มากกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 56.25
   4. อายุปักแจกัน 6 วัน เมื่อดอกบาน 80-100 เปอร์เซ็นต์

พื้นที่แนะนำ

ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่มีปริมาณความเข้มแสง 80–100 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิเฉลี่ย 17-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50–81 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100–3,300 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีประวัติของโรคเหี่ยว (Ralstonia solanacearum) และไม่เคยปลูกพืชอาศัยของโรคนี้ เช่น พืชตระกูลขิง มะเขือเทศ มันฝรั่ง งา ยาสูบ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 3

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 3

วันที่รับรอง    15 มกราคม 2562

ลักษณะเด่น

    1. ช่อดอกทรงถ้วย สีแดงสด (R45A) ขอบกลีบประดับสีขาวเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ก้านช่อดอก สีเขียวอมเหลือง (YG152B) ขนาดช่อดอก กว้าง x ยาว 8.29 x 8.66 เซนติเมตร เล็กกว่าพันธุ์แดงดกที่มีขนาดช่อดอก 17.01 x 8.21 เซนติเมตร
   2. น้ำหนักดอกเฉลี่ย 157.86 กรัม เมื่อดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ น้อยกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 23.45
   3. ผลผลิตดอก 227 ดอกต่อกอต่อปี (อายุ 3 ปี หลังปลูก) มากกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 18.23
   4. อายุปักแจกัน 5 วัน เมื่อดอกบาน 80-100 เปอร์เซ็นต์

พื้นที่แนะนำ

ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่มีปริมาณความเข้มแสง 80–100 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิเฉลี่ย 17-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50–81 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100–3,300 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีประวัติของโรคเหี่ยว (Ralstonia solanacearum) และไม่เคยปลูกพืชอาศัยของโรคนี้ เช่น พืชตระกูลขิง มะเขือเทศ มันฝรั่ง งา ยาสูบ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 4

ดาหลา : พันธุ์ยะลา 4

วันที่รับรอง    15 มกราคม 2562

ลักษณะเด่น

    1. ช่อดอกทรงถ้วย สีชมพูอมแดง (PR73B) กลีบประดับหนา ขอบกลีบประดับสีขาวเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ก้านช่อดอกสีเขียวอมเหลือง (YG152B) ขนาดช่อดอก กว้าง x ยาว 8.07 x 7. 93 เซนติเมตร เล็กกว่าพันธุ์แดงดกที่มีขนาดช่อดอก 17.01 x 8.21 เซนติเมตร
   2. น้ำหนักดอกเฉลี่ย เมื่อดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ 135.39 กรัม น้อยกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 34.35
   3. ผลผลิตดอก 280 ดอกต่อกอต่อปี มากกว่าพันธุ์แดงดก ร้อยละ 45.83
   4. อายุปักแจกัน 6 วัน เมื่อดอกบาน 80-100 เปอร์เซ็นต์

พื้นที่แนะนำ

ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่มีปริมาณความเข้มแสง 80–100 เปอร์เซ็นต์ อุณหภูมิเฉลี่ย 17-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50–81 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100–3,300 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

ควรเลือกพื้นที่ปลูกที่ไม่เคยมีประวัติของโรคเหี่ยว (Ralstonia solanacearum) และไม่เคยปลูกพืชอาศัยของโรคนี้ เช่น พืชตระกูลขิง มะเขือเทศ มันฝรั่ง งา ยาสูบ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 1

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 1

วันที่รับรอง  27 ส.ค. 2551

ลักษณะเด่น

    มีกลีบประดับสีขาว หรือ W 155 A โดยใช้แผ่นเทียบสีของ The Royal Horticulture Society(RHS) ให้ผลผลิตเฉลี่ย 39 ดอกต่อกอต่อปี (เมื่ออายุ 3 ปีหลังปลูก) เมื่อตัดขณะดอกบาน 30 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ และ 80 เปอร์เซ็นต์ จะมีอายุการปักแจกันได้นาน 7 วัน

พื้นที่แนะนำ

ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่รำไรที่มีปริมาณความเข้มแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 81 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,144 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

ไม่ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของดอก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 2

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 2

วันที่รับรอง  27 ส.ค. 2551

ลักษณะเด่น

     กลีบประดับสีบานเย็น หรือ RP 58 B โดยใช้แผ่นเทียบสีของ The Royal Horticulture Society (RHS) ให้ผลผลิตเฉลี่ย 40 ดอกต่อกอต่อปี (เมื่ออายุ 3 ปี หลังปลูก) เมื่อตัดขณะดอกบาน 30 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ และ80 เปอร์เซ็นต์ จะมีอายุการปักแจกันได้นาน 8 วัน

พื้นที่แนะนำ

   ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่รำไรที่มีปริมาณความเข้มแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพันธ์เฉลี่ย 81 เปอร์เซนต์ และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,144 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

    ไม่ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของดอก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 3

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 3

วันที่รับรอง  27 ส.ค. 2551

ลักษณะเด่น

  ให้ผลผลิตเฉลี่ย 106 ดอกต่อกอต่อปี (เมื่ออายุ 3 ปี หลังปลูก) กลีบประดับสีแดง หรือ R 47 B โดยใช้แผ่นเทียบสีของ The Royal Horticulture Society (RHS) เมื่อตัดขณะดอกบาน 30 เปอร์เซ็นต์ 50 เปอร์เซ็นต์ มีอายุการปักแจกัน 8 วัน และตัดขณะดอกบาน 80 เปอร์เซ็นต์ จะมีอายุการปักแจกันได้นาน 7 วัน

พื้นที่แนะนำ

   ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่รำไรที่มีปริมาณความเข้มแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพันธ์เฉลี่ย 81 เปอร์เซนต์ และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,144 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

    ไม่ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของดอก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 4

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 4

วันที่รับรอง  27 ส.ค. 2551

ลักษณะเด่น

   ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 136 ดอกต่อกอต่อปี (เมื่ออายุ 3 ปี หลังปลูก) ช่อดอกสีชมพูหรือ R 56 A โดยใช้แผ่นเทียบสีของ The Royal Horticulture Society (RHS) เมื่อตัดขณะดอกบาน 30 เปอร์เซ็นต์ จะมีอายุการปักแจกันได้นาน 13 วัน ถ้าตัดขณะดอกบาน 50 เปอร์เซ็นต์ และ 80 เปอร์เซ็นต์ จะมีอายุการปักแจกันได้นาน 7-8 วัน

พื้นที่แนะนำ

   ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่รำไรที่มีปริมาณความเข้มแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพันธ์เฉลี่ย 81 เปอร์เซนต์ และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,144 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

    ไม่ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของดอก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 5

ดาหลา : พันธุ์ตรัง 5

วันที่รับรอง  27 ส.ค. 2551

ลักษณะเด่น

    เมื่อตัดขนาดดอกบาน 30 เปอร์เซ็นต์ จะมีอายุการปักแจกันได้นาน 14 วัน ตัดขนาดดอกบาน 50 เปอร์เซ็นต์ มีอายุการปักแจกันนาน 11 วัน ช่อดอกสีแดงเข้ม หรือ R 46 A โดยใช้แผ่นเทียบสีของ The Royal Horticulture Society (RHS) ให้ผลผลิตเฉลี่ย 48 ดอกต่อกอต่อปี (เมื่ออายุ 3 ปีหลังปลูก)

พื้นที่แนะนำ

   ปลูกได้ทั่วไปในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ควรปลูกในที่รำไรที่มีปริมาณความเข้มแสง 60 เปอร์เซ็นต์ มีอุณหภูมิเฉลี่ย 27-33 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพันธ์เฉลี่ย 81 เปอร์เซนต์ และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 2,144 มิลลิเมตรต่อปี

ข้อควรระวัง

    ไม่ควรปลูกกลางแจ้ง เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของดอก หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง