ชื่อสามัญ เข็มขาว
ชื่อวิทยาศาสตร์ Ixora lucida R.Br. ex Hook.f.
ชื่ออื่นๆ เข็มพระราม (กรุงเทพฯ), เข็มปลายสาน (ปัตตานี), เข็มขาว (นครศรีธรรมราช), เข็มขาว (ภาคตะวันตก- เฉียงเหนือ), เข็มไม้ (ไทย)
ถิ่นกำเนิดและประวัติความเป็นมา
เข็มขาว เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินร่วนชุ่มชื้น มีแสงแดดจัด ทนแล้งได้ดี เป็นพรรณไม้ที่ชอบขึ้นตามธรรมชาติในป่าราบหรือตามป่าเบญจพรรณ
ลักษณะทั่วไป
เข็มขาว จัดเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ขึ้นเป็นพุ่มแน่น แตกกิ่งใกล้ผิวดินจำนวนมาก ลำต้นมีความสูงได้ประมาณ 1-3 เมตร เปลือกต้นเป็นสีดำ รากมีรสหวาน มีหูใบ 2 ข้าง น้ำยางใส ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปรีขอบขนาน ปลายใบมน แหลม หรือเรียวแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ผิวใบค่อนข้างหนา ดอกออกรวมกันเป็นช่อแบบซี่ร่มขนาดใหญ่แน่นทึบ ก้านดอกยาวกว่าดอกเข็มชนิดอื่น ๆ ดอกย่อยเป็นรูปหลอดปลายแยกออกเป็นกลีบ 4-5 กลีบ ดอกเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอม ลักษณะของผลเป็นรูปรี มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8 เซนติเมตร มีเนื้อนุ่ม ผลอ่อนเป็นสีเขียว ผลแก่เป็นสีดำ
พันธุ์และการขยายพันธุ์
นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง และปักชำ
วิธีการปลูก
สามารถปลูกเป็นไม้กระถางได้ และสามารถปลูกเป็นไม้ดอกตกแต่งพื้นที่ได้ ในการปลูกลงดินควรเตรียมดินปลูก โดยทำการขูดหลุมขนาด 30×30 เซนติเมตร นำดินขุดมาผสมแกลบดำและปุ๋ยคอกหรืออาจผสมปุ๋ยละลายช้า (สูตร13-13-13) ในอัตราส่วน 1:1:1 จากนั้นนำดินผสมรองก้นหลุมใส่ปุ๋ยละลายช้าประมาณ 50 กรัม ต้นกล้าลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ นำดินที่ผสมที่เหลือกลบหลุมให้เหลือพื้นที่ Root Zone เพื่อระบายอากาศ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
เข็มขาว เป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายไม่ต้องดูแลมากนัก ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ชอบแดด ต้องการน้ำปานกลาง ปลูกได้ทุกที่ทั้งในกระถาง และพื้นดินทั่วไปที่มีการระบายน้ำดี ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
โรคและแมลงศัตรูที่สำคัญ
เพลี้ยแป้ง หากปลูกในบริเวณที่มีน้ำขังเป็นเวลานานทำให้เก็บเชื้อราที่รากและลำต้นได้
การใช้ประโยชน์
1. รากใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาช่วยเจริญอาหาร ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคตาต่าง ๆ
2. นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับสวย ชอบดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ดอกมีกลิ่นหอม สามารถออกดอกเกือบตลอดทั้งปี
แหล่งพืชอนุรักษ์
ศูนย์วิจัยพืชสวนสุโขทัย