ชื่อสามัญ มะแพร้ว Spitapa
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cocos nucifera L. var. spicata K.C.Jacob
ชื่ออื่นๆ
ถิ่นกำเนิดและประวัติความเป็นมา
เป็นมะพร้าวที่ได้จากการรวบรวมพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดชุมพร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนำมาปลูกรวบรวมพันธุ์ภายในศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร จัดเป็นมะพร้าวกลุ่มหายาก มีทั้งกลุ่มต้นสูงและต้นเตี้ย
ลักษณะทั่วไป
มีลักษณะที่แตกต่างจากพันธุ์อื่นๆคือ จั่นไม่มีระแง้ หรืออาจมีระแง้เล็ก 1-2 ระแง้ มีดอกตัวเมียมาก ประมาณ 200 ดอก มีดอกตัวผู้น้อยอยู่ด้านบนของจั่นประมาณ 250 ดอก ผลมีขนาดกลาง มีหลายสี ตั้งแต่เขียว เหลืองอ่อน ส้ม น้ำตาลอ่อน น้ำตาลแก่ มีน้ำหนักเนื้อมะพร้าวแห้งต่อผลประมาณ 200 กรัม พันธุ์มะแพร้วพบได้ทั้งในกลุ่มต้นสูงและต้นเตี้ย การผสมข้ามของมะแพร้วกลุ่มต้นสูงให้ผลที่เป็นมะแพร้วในรุ่นลูก 50 เปอร์เซ็นต์
พันธุ์และการขยายพันธุ์
มะแพร้ว ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด (ผลพันธุ์มะพร้าว)
วิธีการปลูก
เตรียมหลุมขนาด 1x1x1 เมตรตากหลุมทิ้งไว้ 7 วัน รองก้นหลุมด้วยกาบมะพร้าว 2 ชั้น เอาดินบนใส่ลงไปครึ่งหลุมและใช้ดินล่างผสมกับปุ๋ยคอก 25 กก. และหินฟอสเฟตครึ่งกิโลกรัมต่อหลุมใส่ลงให้เต็มทิ้งไว้จนถึงฤดูปลูก (ควรเริ่มปลูกต้นฤดูฝนหลังจากที่ฝนตกหนักแล้วประมาณ 2 ครั้ง)
การดูแลรักษา
- การใส่ปุ๋ย ปุ๋ยเคมีควรใส่ตั้งแต่มะพร้าวมีอายุ 6 เดือนหรือแตกใบย่อย และ ควรใส่ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ โดยใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 10 – 25 กก./ต้น/ปี ปุ๋ยเคมี 13 – 13 – 21 อัตรา 4 กก./ต้น/ปีแบ่งใส่ปีละ 2 หรือ 3 ครั้ง ร่วมกับปุ๋ยแมกนีเซียมซัลเฟต อัตรา 500 กรัม/ต้น หรือหินปูนโดโลไมท์
- การให้น้ำ ควรมีการให้น้ำมะพร้าวอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดการพัฒนาของตาดอก อย่างต่อเนื่องและมะพร้าวผลผลิตไม่ขาดคอ
- การจัดการสวน การกำจัดวัชพืช ส่วนใหญ่ใช้วิธีตัดหญ้า หรือการปลูกพืชคลุมดินในสวนมะพร้าวเพื่อควบคุมวัชพืชและช่วยรักษาความชื้นในดิน และยังช่วยเพิ่มธาตุอาหารและช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน
โรคและแมลงศัตรูที่สำคัญ
- ด้วงแรดมะพร้าว (Coconut Rhinoceros Beetle) ชื่อวิทยาศาสตร์ Oryctes rhinoceros (Linnaeus) การป้องกันกำจัด หมั่นรักษาสวนให้สะอาด ทำลายตัวอ่อนตามกองปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก หมั่นกลับกองปุ๋ยทุกเดือนหรือใช้เชื้อราเขียว (Metarhizium anisopliae) ใส่ไว้ตามกองขยะ กองปุ๋ยคอก กองปุ๋ยหมัก และใส่ลูกเหม็น 6-8 ลูก และทรายบริเวณคอยอดมะพร้าวเพื่อไล่และป้องกันด้วงแรดมะพร้าวเจาะทำลายยอด
- แมลงดำหนามมะพร้าว (Coconut Hispine Beetle) ชื่อวิทยาศาสตร์ Brontispa Longissima ตัวเต็มวัยเป็นด้วงปีกแข็ง วางไข่ ระยะหนอนทำลายมากที่สุดอาศัยกัดกินอยู่ในใบอ่อนที่ยังไม่คลี่ แทะกินผิวใบ การป้องกันกำจัด ใช้แตนเบียนอะซีโคเดส ฮิสไพนารัม (Asecodes hispinarum) หรือแตนเบียนเตตระสติคัส บรอนทิสปี้ Tetrastichus brontispae
การใช้ประโยชน์
จำหน่ายผลแก่ ผลิตมะพร้าวแห้ง และจำหน่ายในภาคอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นกะทิหรือน้ำมันมะพร้าว
แหล่งพืชอนุรักษ์
ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร
พื้นที่ปลูกภายในศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร จำนวน 3 ไร่