ข้าวฟ่างพันธุ์สุพรรณบุรี 1

ประวัติ ปี พ.ศ. 2525 สถาบันวิจัยพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร ทำการผสมพันธุ์ข้าวฟ่าง เพื่อใช้ประโยชน์ได้ทั้งเมล็ดและต้นสด ระหว่างสายพันธุ์แม่ M91019 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวฟ่างต้นสูง มีน้ำในลำต้นหวาน และมีเมล็ดสีเหลืองกับ สายพันธุ์พ่อเวสต์อัฟริกันอายุสั้น ต้นเตี้ย เมล็ดสีแดง ซึ่งได้มาจากสถาบันวิจัยพืชนานาชาติ ทำการคัดเลือกสายพันธุ์เมล็ดสีแดง ที่มีน้ำหนัก 1,000 เมล็ด มากกว่า 30 กรัม ต้นสูงประมาณ 2 เมตร
ลักษณะเด่น เป็นข้าวฟ่างสายพันธุ์แท้มีเมล็ดสีแดง ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์สุพรรณบุรี 60 ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ มีลำต้นหวาน ลำต้นและใบใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ดี เพราะมีปริมาณโปรตีนสูงเท่ากับร้อยละ 5.8 และมีกรดไฮโดรไซยานิคต่ำ

ลักษณะประจำพันธุ์ ใบสีเขียว ลำต้นสีน้ำตาล ต้นสูงประมาณ 2 เมตร ลักษณะทรงช่อยาวรี และค่อนข้างโปร่ง เมล็ดสีแดง น้ำหนัก 1,000 เมล็ดเท่ากับ 32 กรัม เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดง อายุตั้งแต่งอกถึงวันดอกบาน 58 วัน อายุถึงวันเก็บเกี่ยวเมล็ด 90 วัน

ฤดูปลูกที่เหมาะสม
– การปลูกข้าวฟ่างเพื่อใช้ลำต้นเป็นอาหารสัตว์อย่างเดียว ควรปลูกต้นฤดูฝนและตัดข้าวฟ่างครั้งแรกเมื่ออายุ 60 วันหลังงอก และครั้งที่สอง 45 วันหลังการตัด ครั้งแรก ซึ่งจะได้ลำต้นข้าวฟ่างที่สัตว์สามารถย่อยได้มาก
– การปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวทั้งผลผลิตเมล็ดและต้นสด ควรปลูกในเดือนมิถุนายน และตัดลำต้นในช่วงที่เมล็ดเป็นน้ำนม เพื่อใช้เลี้ยงสัตว์และเก็บเกี่ยวเมล็ดจากข้าวฟ่างตอหากปลูกในฤดูแล้ง ลำต้นจะเตี้ย ประมาณ 1.5 เมตร และออกดอกเร็วขึ้น