เป็นพันธุ์ที่ได้จากการผสมเปิดของอ้อยพันธุ์เอฟ 172 ที่ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท ในปี 2521 เสร็จสิ้นการทดลองในปี 2529 รวมเวลา 9 ปี
ลักษณะเด่น ทนต่อการหักล้ม มีการแตกกอดี การไว้ตอดี
ผลผลิตและคุณภาพ ผลผลิต 12-15 ตัน/ไร่ ในไร่กสิกรสภาพน้ำฝน ผลผลิต 15-20 ตัน/ไร่ ในไร่กสิกรที่มีการชลประทาน
CCS มีค่า 11-12
ลักษณะประจำพันธุ์ ใบมีขนาดปานกลาง ตั้งและโค้งกลางใบ ปลายเรียว มีขนที่กาบใบเล็กน้อย กาบใบอยู่ติดลำต้น ลอกออกค่อนข้างยาก คอใบ (dewlap) มีสีเขียว รูปสามเหลี่ยม มุมฉากหูใบ (auricle) รูปใบหอกใหญ่ ยาวทั้ง 2 ข้าง ปล้องมีขนาดใหญ่คอดกลาง สีขาวอมเหลืองมีร่องเหนือตาตื้น ตา มีลักษณะเป็นรูปห้าเหลี่ยมนูนใหญ่ วงเจริญสีเหลืองอยู่ระดับยอดของตา ข้อโปน เป็นพันธุ์ที่มีการออกดอกประมาณกลางเดือน ธันวาคม การเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูหีบ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม จะทำให้อ้อยมีคุณภาพความหวานค่อนข้างสูง
ความต้านทานโรค ในสภาพธรรมชาติมีความทนทานต่อโรคใบด่างและโรคแส้ดำ เป็นโรคใบขาวเล็กน้อย ไม่ต้านทานโรคลำต้นเน่าแดงและโรคกลิ่นสับปะรด
ความต้านทานแมลง การเข้าทำลายของหนอนกออ้อยต่ำ 4.06 %
ฤดูปลูกที่เหมาะสม ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มปลูกได้ในช่วงเดือนสิงหาคม จนหมดฝน ภาคกลางควรปลูกในช่วงเดือนมกราคม ถึงเมษายน