โรคใบด่างถั่วเขียว

พบการระบาดของโรคใบด่างในถั่วเขียว ในแหล่งปลูกที่สำคัญหลายพื้นที่ เช่น นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ชัยนาท เจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตร จากสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท และ ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคม 2563 เพื่อเก็บตัวอย่างถั่วเขียวที่มีอาการผิดปกติไปตรวจวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ  ผลการตรวจในเบื้องต้นด้วยเทคนิค ELISA PCR และ RT-PCR พบว่าเกิดจากเชื้อไวรัส 2 วงศ์ ได้แก่ Geminiviridae : Begomovirus และ Potyviridae : Potyvirus ขณะนี้อยู่ระหว่างการจำแนกชนิดของเชื้อสาเหตุด้วยเทคนิคชีวโมเลกุล เพื่อยืนยันลักษณะทางพันธุกรรมของเชื้อทั้งทางด้านชีววิทยา นิเวศวิทยา ลักษณะอาการ การถ่ายทอดโรค สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผลกระทบ และมาตรการในการจัดการโรค

ถั่วเขียวที่เป็นโรคใบด่าง จะมีอาการด่างเหลือง ออกดอก ติดฝักน้อย ฝักเล็กลีบ โค้งงอ ผลผลิตลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ให้ผลผลิต

 

 

วิธีการป้องกันกำจัด

  1. ไถกลบถั่วเขียวที่เป็นโรคในแปลงที่มีการระบาด หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต
  2. ถั่วเขียวที่อยู่ในระยะก่อนออกดอก หรือเริ่มออกดอก ติดฝัก ให้หมั่นสำรวจแปลง เมื่อพบแมลงหวี่ขาว หรือเพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นแมลงพาหะ พ่นด้วยสารฆ่าแมลง ฟิโปรนิล 5% SC อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อิมาเม็กติน เบนโซเอต 1.92% อีซี อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ อิมิดาโคลพริด 70% WG อัตรา 12 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คาร์บาริล 85% WP อัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7 วัน
  3. ไม่เก็บเมล็ดจากแปลงที่มีการระบาดของโรคใบด่างไว้ทำพันธุ์ในฤดูถัดไป ใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้
  4. ทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรกลทางการเกษตรในการเก็บเกี่ยว
  5. ปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อตัดวงจรของโรค

ดาวโหลด แผนปฏิบัติงานฉุกเฉินกรณีตรวจพบโรคใบด่างถั่วเขียวในประเทศไท

ข้อมูล: สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร