บทบาทหน้าที่ความรับชอบ :
- ควบคุมและกำกับตามกฎหมายว่าด้วย วัตถุอันตราย ปุ๋ย และพันธุ์พืชในพื้นที่รับผิดชอบ
สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 ได้ทำการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรในสังกัด ทำการตรวจสอบโรงงาน และร้านจำหน่ายปุ๋ยทางการเกษตร ทุกพื้นที่ที่ สวพ.8 เป็นผู้ผิดชอบ ได้แก่ สงขลา พัทลุง ตรัง ยะลา ปัตตานี รือเสาะ และนราธิวาส วัตถุประสงค์ในการตรวจครั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพ ผู้ใดพบเบาะแสการผลิตปุ๋ยปลอม สามารถแจ้งได้ที่เบอร์โทรศัทพ์ 074-445905-6 ต่อ 112
ผู้ที่ผลิตปุ๋ยปลอมจะมีโทษตามกฎหมาย คือ
ผู้ที่ผลิตปุ๋ยเคมีปลอม : มีความผิดตามมาตรา 63 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท
– กรณีเป็นปุ๋ยชีวภาพปลอม ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของปุ๋ยเคมี และ กรณีเป็นปุ๋ยอินทรีย์ปลอม ต้องระวางเป็นหนึ่งในสี่ของปุ๋ยเคมี ผู้ที่ขายหรือนำเข้าปุ๋ยเคมีปลอม มีความผิดตามมาตรา 64 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสองหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท
– กรณีเป็นปุ๋ยชีวภาพ ต้องระวางโทษเป็นกึ่งหนึ่งของปุ๋ยเคมี และกรณีเป็นปุ๋ยอินทรีย์ปลอม ต้องระวางเป็นหนึ่งในสี่ของปุ๋ยเคมี
ผู้ที่ผลิตปุ๋ยเคมีผิดมาตรฐาน : มีความผิดตามมาตรา 66 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสองแสนบาท กรณีเป็นปุ๋ยชีวภาพต้องระวางโทษเป็นกึ่งหนึ่งของปุ๋ยเคมี และกรณีเป็นปุ๋ยอินทรีย์ปลอมต้องระวางเป็นหนึ่งในสี่ของปุ๋ยเคมี
ผู้ที่ขายหรือนำเข้าปุ๋ยเคมีผิดมาตรฐาน : มีความผิดตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ผู้ที่ขายหรือนำเข้าปุ๋ยเคมีเสื่อมคุณภาพ : มีความผิดตามมาตรา 68 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ที่ผลิตปุ๋ยชีวภาพต่ำกว่าเกณฑ ์ : มีความผิดตามมาตรา 69 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 2 ปี 6 เดือน และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท กรณีเป็นปุ๋ยอินทรีย์ต่ำกว่าเกณฑ์ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของปุ๋ยชีวภาพ
ผู้ที่ขายหรือนำเข้าปุ๋ยชีวภาพต่ำกว่าเกณฑ์ : มีความผิดตามมาตรา 70 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 1 ปี 6 เดือน และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท กรณีเป็นปุ๋ยอินทรีย์ต่ำกว่าเกณฑ์ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของปุ๋ยชีวภาพ